"ตระกูลวงศ์สวัสดิ์" ขยับรุกธุรกิจลอจิสติกส์เต็มสูบ เฟสแรกรุกรับบริการขนส่งสินค้าอุตสหกรรมทางรถไฟ ทุ่ม 350 ล้าน ซื้อหัวรถจักร์-แคร่ 2 ขบวน ขนตู้คอนเทนเนอร์ขนถ่ายสินค้าได้กว่า 70,000 TEU/ปี ฝันขึ้นทำเนียบผู้นำธุรกิจในเอเชียภายใน 10 ปีพร้อมปฏิเสธใช้การเมืองหนุนธุรกิจลอจิสติกส์ในรฟท. เชื่อทุกรัฐบาลให้ความสำคัญระบบลอจิสติกส์ แม้ไม่ใช่รัฐบาล"ทรท."
นางสาวชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านกลยุทธ์การตลาดบริษัท วินโคสท์อินดัส เทรียล พาร์ค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันตระกูลวงสวัสดิ์ มีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท 50% โดยืเชื่อมั่นว่าโอกาสการเติบโตในธุรกิจลอจิสติกส์ยังมีอยู่สูง โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าอุตสาหกรรมทางรถไฟ หือระบบราง ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการขนส่งเพียง 2% ขณะที่การขนส่งทางรถยนต์จะสูงถึง 88% และยังประสบปัญหาราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย จะส่งผลให้ต้นทุนการขนส่งทางรถยนต์สงตามไปด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามด้วยเหตุดังกล่าวบริษัทจึงลงทุนเพิ่มเพื่อขยายบริการขนส่งสินค้าทางรถไฟ บริการคลังสินค้าปลอดอากร และบริการพิธีการเอกสารนำเข้าส่งออกสินค้า จะสามารถให้บริการรับขนส่งสินค้าอุตสาหกรรมทางรถไฟได้ประมาณปลายปีตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป มีเส้นทางการให้บริการจากมาบตาพุด-แหลมฉบัง โดยได้เช่าที่ดินจากการนิคมอุตสาหกรรม (กนอ.) เพื่อใช้เป็นเทอร์มินอล พร้อมลงทุนซื้อหัวรถจักร และแคร่ ขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ 2 ขบวน พร้อมจ่ายค่าระวางให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) รวมมูลค่าการลงทุนประมาณ 350 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้บริษัทปีละประมาณ 200 ล้าน เชื่อว่า หลังเปิดให้บริการในเดืนอพ.ย.นี้ก็จะทำรายไก้เข้าบริษัทประมาณ 20 ล้านบาท บริษัทมีเป้าหมายว่าจะขนถ่ายสินค้าได้ 70,000 TEU ต่อปี มีระยะเวลาคืนทุน 7 ปี ให้ผลตอบแทนการลงทุนประมาณ 19.58%
"ระบบการขนส่งสินค้าทางรถไฟมีประโยชน์อย่างยิ่งในปัจจุบัน เพราะสามารถช่วยลดต้นทุนค่าขนส่งได้มากกว่า 10% เมื่อเปรียบเทียบกับรถเทรลเลอร์ จึงเป็นทางเลือกที่ดี ปัจจุบันมีผู้ประกอบการหลายรายได้ให้ความสนใจในบริการนี้ โดยเฉพาะกลุ่มปิโตรเคมี การบริหารงานในภาพรวมมีความมั่นใจด้วยทีมงานผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในแวดวงลอจิสติกส์มายาวนานนับ 10 ปี และคาดว่าในปี 2550 เป็นต้นไป บริษัทฯจะมีรายได้รวมทุกโครงการแล้วมากกว่า 300 ล้านบาทต่อปีอย่างแน่นอน"
ต่อข้อถามที่ว่าปัจจุบันการเมืองมีความไม่แน่นอนหากในอนาคตรัฐบาลไม่ได้ยู่ภายใต้การบริหารของพรรคไทยรักไทย จพะมีผลกระทบกับธุรกิจหรือไม่ นางสาวชินณิชา กล่าว่า ไม่แน่นอน ไม่ว่าพรรคการเมืองใดมาบริหารประเทส โครงการลอจิสติกส์ ก้จะถุกผลักดันให้เกิดเพราะเป็นโครงการที่มีประโยชน์ต่อประเทสอย่างมาก บริษัททำธุรกิจนี้การบริหารการจัดการ และโมเดลธุรกิจใหม่ ไม่ได้ใช้คอนเนกชั่นทางการเมืองในการทำธุรกิจอย่างที่หลายฝ่ายเข้าใจ
ด้านนายภัทรลาภ ทวีวงศ์ ณ อยุธยา ประธานเจ้าหนาที่บริหาร บริษัทวินโคสท์ อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงทิศทางบริษัทว่า บริษัทมีเป้าหมายขึ้นเป็นผู้นำธุรกิจลอจิสติกส์ในเอเชียภายในระยะเวลา 10 ปี โดยเริ่มจากปี 2550 เป็นต้นไปที่คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ปีละ 300 ล้านบาท/ปี โดยปัจจุบันบริษัทมีรายได้จากโครงการนิคมอุตสาหกรรมปลอดอากร หรือ FREE ZONE ที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันประมาณ 80 ล้านบาทต่อปี และคาดว่าหลังเปิดโครงการจขนส่งสินค่าจากบางตาพุด-แหลมฉบังแล้วจะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอีก 20 ล้านบาท
สำหรับตลาดการขนส่งโดยรวมมีมูลค่าปีละประมาณ 198,000 ล้านบาท หรือเทียบเท่า 8.61% จากมูลค่าสินค้าอุตสาหกรรมทั้งประเทศ นับเป็นตลาดที่ใหญ่มาก ปัจจุบันบริษัทฯได้มีการติดต่อกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและผู้ผลิตเม็ดพลาสติกในเขตอุตสาหกรรมมาบตาพุดหลายราย อาทิ ผู้ผลิตในเครือปตท. และปูนซิเมนต์ไทย โดยการขนส่งทางรถไฟจะเป็นทางเลือกใหม่ที่ดี จะช่วยลดต้นทุนการขนส่งได้มากกว่า 10% เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ประกอบการ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ใช้บริการได้เต็ม 70,000 TEU ต่อปีอย่างแน่นอน
ทั้งนี้บริษัทฯ ได้ศึกษาความเป็นไปได้ทางการตลาดมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว มั่นใจว่าตลาดของการทำขนส่งอย่างครบวงจรเป็นตลาดใหญ่ อีกทั้งในยุคน้ำมันแพงเช่นนี้ การขนส่งทางรถไฟน่าจะเป็นทางเลือกที่ดี ส่วนโครงการในระยะยาวอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ อาทิ การร่วมกับพันธมิตรพัฒนาธุรกิจขนส่งระหว่างประเทศทั้งทางเรือ ทางอากาศ และการพัฒนาที่ดินเพื่อรองรับธุรกิจลอจิกติกสทั่วภูมิภาคในอนาคต โดยการพัฒนาธุรกิจจะมุ่งดำเนินการใน 2 ลักษณะ คือ โครงการที่มุ่งลงทุนเอง และโครงการที่ร่วมกับพันธมิตรที่อยู่ในสายธุรกิจอยู่แล้ว อาทิ สายการเดินเรือต่างๆ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อวางแผนธุรกิจระยะยาว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2127 02 ก.ค. - 05 ก.ค. 2549
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น