บริษัทน้องใหม่ "ไอคอนเฮาส์" รุกตลาดรับสร้างบ้านระบบกึ่งสำเร็จรูป ชูกลยุทธ์ราคาเจาะตลาดยุคน้ำมันแพงเฉลี่ย 4,000 บาทต่อ ตร.ม. เป็นปลื้มผลตอบรับงาน "รับสร้างบ้าน 2006" เกินคาดยอดจองกว่า 100 หลัง เตรียมเจรจาการเคหะฯเจาะตลาดก่อสร้างบ้านเอื้ออาทรในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว หลายธุรกิจไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจรับสร้างบ้านมีการแข่งขันกันรุนแรงขึ้นโดยเฉพาะเรื่องราคา หากไม่นับรวมการจัดแคมเปญส่วนลดหรือของแถม การตั้งราคารับสร้างบ้านต่อตารางเมตรที่ต่ำกว่าถือว่ามีส่วนสำคัญในการตัดสินใจสร้างบ้านของลูกค้า ล่าสุดคือบริษัท โฮม ไอคอนส์อินเตอร์ จำกัด บริษัทรับสร้างบ้านน้องใหม่ที่เปิดตัวเป็นทางการในงานรับสร้างบ้าน 2006 ที่กล้าเคาะราคาถูกกว่าผู้ประกอบการรายอื่นๆ ในยุคน้ำมันแพงนายโฆษิต บำรุงตระกูล ผู้จัดการฝ่ายโครงการบ้าน บริษัท โฮม ไอคอนส์อินเตอร์ จำกัด บริษัทรับสร้างบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ด้วยระบบกึ่งสำเร็จรูปในชื่อ "ไอคอนเฮาส์" เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า บริษัทได้เข้ามารุกตลาดรับสร้างบ้านเป็นครั้งแรกเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาในงานแฟร์ "บ้านโลก" เมื่อ 2 ปีก่อน และล่าสุดคืองาน "รับสร้างบ้าน 2006" ที่ผ่านมา รูปแบบเป็นการก่อสร้างบ้านแบบครึ่งตึกครึ่งไม้ด้วยระบบกึ่งสำเร็จรูป ส่วนดีไซน์เป็นแบบบ้าน ทรงไทยโบราณ โดยชูกลยุทธ์เรื่องราคาที่ต่ำกว่า ผู้ประกอบการรายอื่นในตลาด เฉลี่ยแล้วคิดราคาตารางเมตรละ 4,000 บาท ซึ่งน่าจะต่ำที่สุดในตอนนี้ และมุ่งจับตลาดกลุ่มคนที่เพิ่งจบและต้องการมีบ้านเป็นของตัวเอง"สาเหตุที่เราตั้งราคาได้ถูกเพราะส่วนหนึ่งเรามีธุรกิจโรงเลื่อยไม้ของตัวเองและทำมานานร่วม 80 ปี และยังผลิตเฟอร์นิเจอร์ขายภายใต้แบรนด์ "Home Icons" มาก่อน จึงมีแหล่งนำเข้าไม้ที่มีต้นทุนต่ำบวกกับใช้ระบบก่อสร้างแบบกึ่งสำเร็จรูป คือดีไซน์หน้าตาบ้านมาตรฐานเหมือนกันแต่มีพื้นที่ใช้สอยให้เลือกหลายขนาด การก่อสร้างจึงรวดเร็ว ถ้ายิ่งมีออร์เดอร์มากการผลิตต่อหน่วยก็ยิ่งต่ำ"ในแง่ผลตอบรับจากการออกงาน "บ้านโลก" ร่วมกับการเคหะแห่งชาติเป็นครั้งแรกบริเวณท้องสนามหลวงถือว่าผลตอบรับดีมาก โดยเปิดตัวแบบบ้านราคาถูกเพียง 170,000 บาทต่อหลัง เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวแบบยกใต้ถุนสูงมีพื้นที่ใช้สอย 50 ตารางเมตร ปรากฏมีผู้สนใจลงชื่อแสดงความต้องการสร้างบ้านเป็นจำนวนกว่า 10,000 ราย แต่ที่สุดแล้วมีลูกค้าเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ที่กู้ผ่านเนื่องจากส่วนใหญ่ไม่มีที่ดินเป็นของตัวเอง จากเหตุผลดังกล่าวบริษัทจึงปรับกลยุทธ์หันมาเจาะตลาดรับสร้างบ้านให้ลูกค้ารายย่อยควบคู่กัน โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานรับสร้างบ้าน 2006 ที่ผ่านมา พร้อมเพิ่มขนาดบ้านให้หลากหลายมากขึ้น โดยมีให้เลือกทั้งสิ้น 5 ขนาด ได้แก่ แบบบ้านชั้นเดียวยกใต้ถุนสูง มี 2 ขนาด 1)พื้นที่ใช้สอย 50 ตารางวา ราคา 250,000 บาท และ 2)พื้นที่ใช้สอย 72 ตารางเมตร ราคา 350,000 บาท โดยห้องน้ำจะอยู่ใต้ถุนด้านล่าง แบบบ้าน 2 ชั้น (ครึ่งตึกครึ่งไม้) ขนาด 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ โดยชั้นล่างก่อสร้างด้วยวิธีก่ออิฐฉาบปูนส่วนชั้นบนเป็นไม้เต็งป่าผสมไม้ฝาเฌอร่า มีให้เลือก 3 ขนาด 1)พื้นที่ใช้สอย 70 ตารางเมตร ราคา 470,000 บาท 2)พื้นที่ใช้สอย 83 ตารางเมตร ราคา 730,000 บาท และ 3)พื้นที่ใช้สอย 112 ตารางเมตร ราคา 990,000 บาท โดย ตลอดการเข้าร่วมงาน 5 วันมียอดจองบ้านกว่า 100 หลัง"ส่วนหนึ่งที่เราเลือกเจาะตลาดลูกค้าทั่วไปตอนนี้เพราะมองว่าน่าจะตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการบ้านในยุคน้ำมันแพง และสอดรับพระราชดำรัสในหลวงในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง คือ เราทำแค่มาร์จิ้น พออยู่ ได้แต่อาศัยมีวอลุ่มเยอะ" นายโฆษิตกล่าว และว่าในอนาคตหากมีลูกค้ามากขึ้นก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อระยะเวลาการก่อสร้าง โดยปัจจุบันหากเป็นแบบบ้านชั้นเดียวใช้เวลาก่อสร้างไม่เกิน 15-30 วัน และแบบบ้าน 2 ชั้นใช้เวลาก่อสร้าง 45-60 วัน เหตุผลเนื่องจากไม้ทุกชิ้นที่ใช้ในการก่อสร้างจะทำสำเร็จรูปมาจากโรงงานทั้งหมด ยกเว้นงานก่ออิฐฉาบปูนที่ต้องทำหน้าไซต์งานเท่านั้น ดังนั้นจึงสามารถหาแรงงานท้องถิ่นมาช่วยก่อสร้างได้ อย่างไรก็ตามบริษัทมีช่างที่ผ่านการอบรมจากบริษัทไปควบคุมงานก่อสร้างอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ จากประสบการณ์ก่อสร้างบ้านให้กับครอบครัวหน่วย สสส.จชต.ที่ปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และก่อสร้างบ้านให้กับผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์สึนามิที่ผ่านมาหลายร้อยยูนิต ยังไม่ประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานหรือส่งมอบบ้านช้ากว่ากำหนด นายโฆษิตกล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ามียอดการสั่งสร้างบ้าน 1,000 ยูนิต โดยถัดไปเตรียมออกงานมหกรรมบ้านและคอนโดฯ อยู่ระหว่างการเจรจากับโครงการรีสอร์ตตามต่างจังหวัดอีกหลายราย และล่าสุดอยู่ระหว่างการเสนองานในโครงการ "บ้านเอื้ออาทร" โดยจะเสนอบ้านรุ่นเล็กแบบชั้นเดียวราคา 2.5 แสนบาท "โครงการบ้านเอื้ออาทรเป็นตลาดที่เราสนใจ ก่อนหน้านี้เราเคยเสนอไปแล้วครึ่งหนึ่งแต่สเป็กในเรื่องวัสดุไม่ได้ แต่ล่าสุดเราจะลองเสนอไปอีกครั้งและคิดว่าน่าจะมีโอกาส"รูปแบบคือจะจับมือกับเจ้าของที่ดินในจังหวัดต่างๆ หลายรายเพื่อร่วมกันเสนอแผนงานโครง การในลักษณะเทิร์นคีย์ ที่ค่อนข้างชัดเจนแล้วมี อาทิ ที่ดินในอำเภอค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี เนื้อที่ประมาณ 30 กว่าไร่ สามารถสร้างบ้านได้ประมาณ 300 ยูนิต ที่ดินในอำเภอพาน จังหวัดเชียงราย เนื้อที่กว่า 100 ไร่ สามารถก่อสร้างได้ประมาณ 1,000 ยูนิต ที่ดินในอำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา เนื้อที่ประมาณ 40-50 ไร่ ก่อสร้างได้ประมาณ 500 ยูนิต
จากหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 04 กันยายน พ.ศ. 2549 ปีที่ 30 ฉบับที่ 3824 (3024)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น