ธอส. (ธนาคารอาคารสงเคราะห์) ได้จัดทำรายงาน "การให้บริการสินเชื่อเพื่อซื้อห้องชุดของ ธอส." เผยแพร่ในวารสารธนาคารอาคารสงเคราะห์ ฉบับที่ 45 ประจำเดือนเมษายน-มิถุนายน 2549 พบว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (2539-2548) การปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อห้องชุดของธนาคารมีการขยายตัวขึ้นลงตามภาวะเศรษฐกิจและตลาดที่อยู่อาศัย สรุป ได้ดังนี้1.การปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อห้องชุดของ ธอส. ในรอบ 10 ปี (2539-2548) ประกอบด้วย1.1 จำนวนผู้กู้และมูลค่าสินเชื่อ ข้อมูลเชิง สถิติในช่วงปี 2539-2548 ที่ผ่านมา ธอส.ปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อห้องชุดจำนวนทั้งสิ้น 146,750 บัญชี (เฉลี่ยปีละ 14,700 บัญชี) คิดเป็นจำนวนเงิน 52,068 ล้านบาท (เฉลี่ยปีละ 5,200 ล้านบาท) โดยในปี 2539-2540 มีการขยายตัวค่อนข้างสูง และหดตัวลงในปี 2541-2542 หลังจากนั้น ตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา เริ่มมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับในปี 2548 ธนาคารมียอดปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อห้องชุดจำนวน 14,817 บัญชี คิดเป็นจำนวนเงิน 6,490 ล้านบาท สูงกว่าค่าเฉลี่ยต่อปีประมาณ 1,200 ล้านบาท1.2 สินเชื่อจำแนกตามพื้นที่ ข้อมูลในส่วนนี้จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่จะอยู่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเป็นหลัก โดยในปี 2548 มีจำนวนผู้กู้สินเชื่อเพื่อซื้อห้องชุดของ ธอส.ในเขตกรุงเทพมหา นครและปริมณฑล สูงถึง 14,041 บัญชี คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 94.8 ของจำนวนผู้กู้สินเชื่อเพื่อซื้อห้องชุดทั้งประเทศ ขณะที่ในต่างจังหวัดมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 5 เท่านั้น และหากพิจารณาจากจำนวนเงินของสินเชื่อเพื่อซื้อห้องชุดในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีจำนวน 6,216 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 95.8 ของจำนวนเงินสินเชื่อเพื่อซื้อห้องชุดทั้งประเทศทั้งนี้ หากพิจารณาวงเงินเฉลี่ยของสินเชื่อเพื่อซื้อห้องชุด พบว่าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีวงเงินเฉลี่ยประมาณ 440,000 บาทต่อราย ส่วนในต่างจังหวัดมีวงเงินเฉลี่ยประมาณ 350,000 บาทต่อราย จะเห็นได้ว่าผู้ที่มาขอสินเชื่อซื้อห้องชุดของ ธอส.ส่วนใหญ่จะเป็นห้องชุดระดับล่าง2.หลักเกณฑ์และเงื่อนไขสินเชื่อ ปัจจุบันธนาคารอาคารสงเคราะห์มีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการให้สินเชื่อเพื่อซื้อห้องชุดดังนี้ 1.คุณสมบัติผู้กู้ เป็นข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือประชาชนทั่วไปที่มีรายได้จากการประกอบอาชีพประจำ หรืออาชีพอิสระ 2.วัตถุประสงค์การกู้ เพื่อซื้อห้องชุด3.วงเงินกู้ จะมีเกณฑ์พิจารณาแบ่งเป็นพิจารณาตามเกณฑ์รายได้กับตามเกณฑ์หลักประกัน ดังนี้3.1 ตามเกณฑ์รายได้ ผู้ขอกู้ในกรณีมี "อาชีพประจำ" ให้กู้ไม่เกิน 40 เท่าของเงินเดือน ค่าจ้าง ค่าครองชีพ รวมถึงเงินที่ได้รับทุกเดือนเป็นประจำ และติดตัวตลอดอายุการทำงาน (หากโอนย้ายหรือเลื่อนตำแหน่งต้องติดตัวตลอดไป) และอีกไม่เกิน 15 เท่าของรายได้อื่นที่ได้รับจากตำแหน่งหน้าที่การงานนั้นเฉลี่ยต่อเดือน (ไม่พิจารณาค่าพาหนะ ค่ารับรอง และเบี้ยเลี้ยง) หรือรายได้อื่นๆ ที่เชื่อถือได้กรณี "อาชีพอิสระ" ให้กู้ไม่เกิน 40 เท่าของรายได้เฉลี่ยรายเดือนหักค่าใช้จ่ายแล้ว หากประกอบอาชีพไม่ตรงตามวุฒิการศึกษา หรือ ประกอบธุรกิจอื่นๆ ซึ่งเป็นกิจการที่ไม่มั่นคงให้ ลดหลักประกันลงอีก 1 ใน 5 และพิจารณาให้กู้ตามเกณฑ์รายได้เท่านั้น ไม่ผ่อนผันให้กู้เกินเกณฑ์รายได้ ยกเว้นผู้กู้ที่ซื้อหลักประกันภายใต้โครงการจัดสรร โดยต้องมีหลักฐานการผ่อนชำระเงินดาวน์ที่ชัดเจนทั้ง 2 กรณีจะต้องพิจารณาตามใบประเมินผล credit scoring หากประเมินผลตาม credit scoring แล้วไม่เพียงพอกับวงเงินขอกู้ ให้พิจารณารายได้โดยนำเกณฑ์การคำนวณวงเงินกู้กำหนดเงินงวดไม่เกิน 1 ใน 3 ของรายได้3.2 ตามเกณฑ์หลักประกัน จะพิจารณาปล่อยสินเชื่อไม่เกินร้อยละ 50-80 ของราคาประเมินและราคาซื้อขาย ดังนี้ กรณีที่ 1 ปล่อยสินเชื่อ ไม่เกินร้อยละ 80 ของราคาประเมินและไม่เกินร้อยละ 80 ของราคาซื้อขาย กรณีหลักประกันเป็นห้องชุดราคาตั้งแต่ 1 ล้านบาทต่อหน่วย กรณีที่ 2 ไม่เกินร้อยละ 70 ของราคาประเมิน และไม่เกินร้อยละ 70 ของราคาซื้อขาย กรณี หลักประกันเป็นห้องชุดราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทต่อหน่วยกรณีที่ 3 ปล่อยสินเชื่อไม่เกินร้อยละ 60 ของราคาประเมินและไม่เกินร้อยละ 60 ของราคาซื้อขาย กรณีอยู่ระวางเวนคืน ที่ยังไม่กำหนดแนว เขตเวนคืน และกรณีที่ 4 ไม่เกินร้อยละ 50 ของราคาประเมิน และไม่เกินร้อยละ 50 ของราคาซื้อขาย กรณีรถยนต์เข้าไม่ถึงหลักประกัน, หลักประกันอยู่ในแนวเขตเวนคืน ไฟฟ้าห่างหลักประกันเกิน 100 เมตร และมีน้ำใช้ตามสภาพ ท้องถิ่น4.ระยะเวลากู้ ธอส. ใช้เกณฑ์ทั่วไป คือไม่เกิน 30 ปี อายุผู้กู้รวมกับระยะเวลากู้ไม่เกิน 70 ปี 5.หลักประกัน อช.2 (หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด) 6.อัตราดอกเบี้ย ใช้อัตราดอกเบี้ยลอยตัว ตามประกาศธนาคาร 7.การเบิกเงินกู้ จะจ่ายเงินงวดเดียวในวันทำนิติกรรม8.การผ่อนชำระเงินงวด เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าธนาคาร จึงจัดให้มีช่องทางในการผ่อนชำระเงินงวดเป็น 3 ช่องทางด้วยกัน คือ ชำระด้วยตนเองกับ ธอส., ชำระผ่านธนาคารที่มีข้อตกลงกับ ธอส. และเลือกชำระผ่านช่องทางที่ธนาคารเปิดให้บริการ9.เงื่อนไขอื่นๆ เพื่อเป็นการผ่อนคลายเกณฑ์การให้สินเชื่อ จึงกำหนดให้มี "ออปชั่นเสริม" ดังนี้คือ เรื่องของ "การกู้ร่วม" มีผู้กู้ร่วมได้ไม่เกิน 1 คน ไม่นับผู้กู้ร่วมที่เป็นคู่สมรส บุตร หรือบิดา-มารดา หรือพี่น้อง โดยต้องมีรายได้ช่วยผ่อนชำระได้ เรื่องของ "การถือกรรมสิทธิ์" ต้องโอนกรรมสิทธิ์เป็นของผู้กู้ทุกคน ยกเว้นผู้กู้ที่เป็นคู่สมรส บิดา มารดา บุตร พี่น้อง หรือเป็นผู้เช่าซื้อกับการเคหะแห่งชาติเงื่อนไขอื่นๆ ในกรณีเกณฑ์การให้กู้ซื้อห้องชุดแต่ละครั้งได้ไม่เกิน 2 ห้อง ทั้งนี้ หากห้องชุดที่ขอกู้มีการเจาะทะลุถึงกันให้ถือเป็น 1 ห้อง
จากหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 30 ฉบับที่ 3810(3010)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น