
ยักษ์ดีเวลลอปเปอร์บ้าน ฟันธง พ.ศ. 2549 ปีดับธุรกิจอสังหาฯ ตลาดเลวร้ายกว่าปีที่ผ่านมา สาระพันปัญหารุมเร้า ทั้งดอกเบี้ยขยับ-ราคาน้ำมันพุ่ง ส่วนปัญหาหนักใจเพิ่ม "กู้ไม่ผ่าน" ขณะที่ "การเมือง" คือสุดยอดปัญหาหายนะ ชี้แค่รักษายอดขายให้เท่าเดิมยังหืดขึ้นคอ ยอดขายบ้านเดี่ยวทรุด ยกเว้นคอนโดมิ เนียม ราคา 1 ล้านเศษๆ ยอดจองพุ่งปรี๊ด! ด้านธปท.ระบุซื้อขายที่ดินเดือนเม.ย.ทรุด 8.5% ราคาบ้านเฉลี่ยลดต่ำลงเฉลี่ยเดือนพ.ค.อยู่ที่ 2.3 ล้านบาทจาก 3.4 ล้านบาทในเดือนเม.ย.
นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ภาวะตลาดในครึ่งแรกของปี 2549 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านว่า โดยภาพรวมแล้วตลาดไม่ได้ดีกว่าปี 2548 เลย สังเกตได้จากยอดขายส่วนใหญ่ที่อยู่ในระดับทรงตัวทั้งสองปี ซึ่งตามความเป็นจริงแล้ว ผู้ประกอบการรายใหญ่ได้แชร์จากผู้ประกอบการรายเล็กที่ล้มหายตายจากไปตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ฉะนั้นยอดขายก็จะต้องเพิ่มขึ้นตามส่วนแบ่งที่เพิ่มขึ้น แต่ตัวเลขยอดขายบ้านของผู้ประกอบการก็ยังอยู่ในระดับใกล้เคียงกันทั้งสองปีซึ่งอันที่จริงควรจะต้องมากกว่านั้น
สำหรับยอดขายที่เท่ากันของเอเชี่ยนทั้งไตรมาสหนึ่งและสองของปีนี้ เป็นเพราะยังไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ แต่ในภาพรวมของธุรกิจ ยอดขายในไตรมาสที่สองจะไม่ดีไปกว่ากว่าไตรมาสแรก เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน และมีวันหยุดที่ติดต่อกันหลายครั้ง อีกทั้งตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นมาก และตัวเลขการส่งออกก็ไม่ดีเท่าที่ควร แม้ว่าอุณหภูมิทางการเมืองในภาพรวมดูเหมือนจะลดความร้อนแรงลง แต่ความเป็นจริงแล้ว สถานการณ์ยังไม่คลี่คลายลง การเลือกตั้งครั้งใหม่จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ยังไม่มีกำหนด โดยนายอนุพงษ์กล่าวยอมรับว่าปีนี้เป็นปีที่ผู้ประกอบการเหนื่อยมาก ส่วนยอดรับรู้รายได้ ณ ขณะนี้อยู่ที่ 4,000 กว่าล้านบาท เหลือที่จะต้องทำให้ได้อีก 1,000 กว่าล้านบาท จึงจะเป็นไปตามเป้ารายได้ที่ตั้งไว้ทั้งปีที่ 6,000 ล้านบาท
เช่นเดียวกับ นายชายนิด โง้วศิริมณี กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) ที่กล่าวกับฐานเศรษฐกิจว่า ตลาดบ้านในปีนี้แย่กว่าปีที่ผ่านมา ปัจจัยลบหลักที่สำคัญคือปัญหาการเมือง อย่างไรก็ดี ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ ผู้ช่วยกรรมการ กล่าวว่า ยอดขายที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสสองถึง 3,000 ล้านบาท เป็นผลมาจากการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมราคาไม่แพง "เมโทรพาร์ค" ที่เพิ่มเข้ามา ส่วนยอดขายบ้านเดี่ยวยังทรงๆตัว และ ยอดขายโดยรวมของทุกค่ายน่าจะทรงตัว หากจะดีก็เป็นกลุ่มผู้ประกอบการสินค้าประเภทคอนโดมิเนียมราคา 1 ล้านบาทเศษๆ และบ้านราคาไม่สูงมาก
สอดคล้องกับ นายอธิป พีชานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ และในฐานะนายกสมาคมอาคารชุดไทย โดยกล่าวว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาฯ ใน 6 เดือนแรกของปีนี้เลวร้ายกว่าปีที่ผ่านมา เพราะมีปัญหาการเมืองเข้ามาเพิ่มเติมต่อจากปัญหาอัตราดอกเบี้ย และราคาน้ำมันที่แพงขึ้นที่ยังคงอยู่ อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการที่จะประคองตัวเองให้พ้นวิกฤตนี้ไปได้จะต้องสามารถวิเคราะห์ตลาดได้อย่างแม่นยำและทำสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดจึงจะอยู่ได้ เช่น การปรับตัวของศุภาลัยที่หันมาทำคอนโดมิเนียมราคาไม่แพงภายใต้แบรนด์ "ซิตี้โฮม" และการเปิดตัวคอนโดมิเนียมริมน้ำ ริเวอร์เพลส ที่เปิดเพียง 3 อาทิตย์ก็มียอดจองเข้ามา 80% จึงทำให้ยอดขายครึ่งปีแรกของปี 2549 โตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 20%
ทั้งนี้นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษาเรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวยอมรับว่าปัญหาการเมืองได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาฯ ในเรื่องของความเชื่อมั่น สังเกตได้จากยอดขายบ้านของบริษัทในครึ่งปีแรกที่คาดว่าจะต่ำกว่าประมาณการณ์ 10% อันเป็นผลมาจากยอดขายบ้านเดี่ยวแบรนด์ภัสสร ราคา 3 ล้านบาท ที่ได้หดตัวลง (ครึ่งปีแรกของปี 2548 มียอดขายรวม 3,868 ล้านบาท เติบโต 33 % เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของ 2547)
ด้านนายชูเกียรติ ตั้งมติธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานการตลาด บริษัท มั่นคง เคหะการ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บ้านเดี่ยวราคาไม่แพง กำลังซื้อยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหาที่พบคือจำนวนลูกค้ากู้ไม่ผ่านเพิ่มมากขึ้นโดยยอดขายที่ลดลงในไตรมาสที่สองของปีนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการกู้ไม่ผ่านของลูกค้าซึ่งบริษัทต้องนำกลับมาขายใหม่อยู่เรื่อยๆ อีกส่วนหนึ่งมาจากการเลื่อนเปิดตัวโครงการใหม่คือเรสซิเดนท์ 5 ที่ช้าออกไปอีกเนื่องจากปัญหาที่ดิน
เช่นเดียวกับนายสมนึก ตันฑเทอดธรรม รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าสซิ่ง จำกัด ยอดขายที่ลดลงส่วนหนึ่งเป็นผลมากจากจำนวนลูกค้ากู้ไม่ผ่านเพิ่มขึ้นและอารมณ์ในการซื้อของลูกค้าที่ยังซึมๆอยู่ ซึ่งบริษัทได้พยายามกระตุ้นตลาดด้วยบ้านพร้อมโอน ส่วนทิศทางตลาดบ้านในครึ่งปีหลังขณะนี้ยังมองไม่เห็นปัจจัยบวกเลย การเมืองก็ยังคลุมเครืออยู่ ปัญหาราคาน้ำมันก็ยังมีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้นต่อ ในธุรกิจอสังหาฯยังไม่มีอะไรที่ส่งสัญญาณเข้ามาเป็นปัจจัยบวกสิ่งที่จะให้เป็นบวกขึ้นมาได้ คือ ผู้ประกอบการต้องแม่นลูกค้าเพื่อสร้างโอกาสทางการขายให้กับตัวเอง
ขณะที่นายวสันต์ เคียงศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธารารมณ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ยอดขายเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนแทบจะไม่มีอัตราการเติบโตเลยจากที่ประมาณการณ์ไว้ว่าน่าจะโต 10-15% โดยภาพรวมทั้งปีเชื่อว่าจะอยู่ในระดับที่ทรงตัวไม่ได้เลวร้ายมากนัก เพราะขณะนี้ทุกอย่างเริ่มนิ่งแล้ว และเชื่อว่าในครึ่งปีหลังคนจะเริ่มชินกับปัญหาการเมือง ส่วนอัตราดอกเบี้ยตอนนี้อยู่ในระดับที่ทรงตัวแล้ว จะมีก็เพียงปัญหาราคาน้ำมัน ในส่วนของปัญหาลูกค้ากู้ไม่ผ่าน บริษัทไม่ได้รับผลกระทบตรงนี้ เพราะโครงการของธารารมณ์ต้องดาวน์อย่างน้อย 10% และในบางโครงการถึง 15% จึงทำให้ลูกค้ากู้น้อยและผ่านการการพิจารณาสินเชื่อจากแบงก์
ทั้งนี้ นายวสันต์ มองว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง จะทำให้สินค้าประเภทโฮมออฟฟิศ ราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท กลับเข้ามาสู่ตลาดมากขึ้นจากการที่ประชาชนเริ่มหันกลับไปรุกในธุรกิจเอสเอ็มอี และบ้านแฝดจะเห็นเข้ามาสู่ตลาดมากขึ้นจากการที่ค่า FAR ไม่ได้ครอบคลุมไปถึงบ้านแฝด
ส่วนตลาดคอนโดมิเนียม โดยนายโอภาส ศรีพยัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดิเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า คอนโดมิเนียมราคาไม่ถึง 1 ล้านบาท ถึง 1 ล้านบาทเศษๆ ที่ แอล.พี.เอ็น. จับอยู่ กำลังซื้อไม่ได้ลดลงเลยเมื่อเทียบกับสถานการณ์ 6 เดือนแรกของปีที่ผ่านมา ยังคงได้รับความสนใจจากตลาดที่อยู่อาศัยในกลุ่มระดับกลาง-ล่างอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันนี้ตลาดคอนโดฯ มีส่วนแบ่ง ตลาดมากกว่า 30% แต่ที่แตกต่างกันคือลูกค้าใช้เวลาในการตัดสินใจนานขึ้น
อย่างไรก็ดีกลุ่มลูกค้าดังกล่าว เป็นกลุ่มที่ต้องการที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริง โดยมีปัจจัยบวกส่งเสริมคือราคาน้ำมันที่แพงขึ้น ผู้บริโภคจึงหันมาให้ความสำคัญกับคอนโดมิเนียมราคาไม่แพงและอยู่ในทำเลที่มีการเดินทางที่สะดวกสบาย แต่โดยภาพรวมอสังหาฯแล้ว กำลังซื้ออาจจะยังชะลอตัวอยู่เป็นผลจากปัจจัยลบที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ทั้งความอึมครึมของรัฐบาล ราคาน้ำมัน ประกอบกับในช่วงนี้มีปัญหาด้านหน้าฝน ส่วนทิศทางตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง การเมืองยังเป็นปัจจัยลบที่สำคัญอยู่
ขณะที่นายเมธา จันทร์แจ่มจรัส ประธานอำนวยการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ จำกัด ที่ในช่วงหลังหันมาพัฒนาคอนโดมิเนียมจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ในราคาไม่แพง ควบคู่ไปกับการการสร้างบ้านในเมือง กล่าวว่า แม้ตลาดที่อยู่อาศัยในช่วงไตรมาสหนึ่งและสองจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบ ราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นและโดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจัยลบทางการด้านเมือง แต่ไม่ได้ส่งผลต่อตลาดห้องชุดพักอาศัยในระดับราคา 1 ล้านบาทเศษ ที่อยู่ในทำเลตามแนวรถไฟฟ้า
อย่างไรก็ดีหนังสือพิมพ์ "ฐานเศรษฐกิจ" ได้ทำการสำรวจยอดขายบ้านของผู้ประกอบการบ้านจัดสรร-คอนโดมิเนียมรายใหญ่จำนวนหนึ่งในครึ่งปีแรกของปี 2549 (ม.ค.-มิ.ย.) และสถานการณ์ตลาดในมุมมองของผู้ประกอบการเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา พร้อมแยกยอดขายในครึ่งปีแรกออกเป็นรายไตรมาส เพื่อตรวจดูสถานการณ์ไตรมาสต่อไตรมาส ซึ่งจากการสำรวจข้อมูลมีรายละเอียด ดังนี้ โดยบริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) สามรถทำยอดรับรู้รายได้ในไตรมาสแรกปี 2549 ที่ผ่านมาประมาณ 3,188 ล้านบาท ลดลงจากปี 2548 ช่วงเดียวกันที่สามารถทำได้ 3,746 ล้านบาท ในขณะที่ไตรมาส 2 ปีนี้คาดว่าน่าจะสามารถรับรู้รายได้ประมาณ4,800 ล้านบาท ลดลงกว่าปี 2548 ช่วงเดียวกันที่สามารถรับรู้รายได้ที่ 5,109 ล้านบาท รวมครึ่งปีจะมีตัวเลขประมาณ 7,988 ล้านบาท
ส่วนบริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) มียอดขายรวมในครึ่งปีแรก 5,500 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายในไตรมาสที่สอง ประมาณ 3,500 ล้านบาท และไตรมาสแรก 2,000 ล้านบาท, บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) มียอดขายในครึ่งปีแรกประมาณ 4,700 ล้านบาท เป็นยอดขายที่เกิดจากไตรมาสสองประมาณ 3,000 ล้านบาท และไตรมาสแรก 1,700 ล้านบาท,
บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายรวมสองไตรมาสกว่า 4,000 ล้านบาท, พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ จำกัด มียอดขายรวมในไตรมาสสอง 3,500 ล้านบาท
บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) มียอดขายรวมในครึ่งปีแรกประมาณ 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็นไตรมาสละ 1,500 ล้านบาทบริษัท มั่นคง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มียอดขายรวม 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายไตรมาสแรก 600 ล้านบาท และไตรมาสสอง 400 ล้านบาท, บริษัท เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มียอดขายรวม 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นไตรมาสแรก 400 ล้านบาท และไตรมาสสอง เท่ากับ 600 ล้านบาท, บริษัท เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด มียอดขายรวม 900 ล้านบาท แบ่งเป็นไตรมาสแรก 500 ล้านบาท ในขณะที่ไตรมาสสองมียอดขาย 400 ล้านบาท, บริษัท ธารารมณ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) มียอดขายในครึ่งปีแรก 700 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม จากการรายงานเศรษฐกิจและการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่าในช่วงเดือนเมษายน ที่ผ่านมา เครื่องชี้ด้านอสังหาริมทรัพย์ได้หดตัวลงอย่างเห็นได้ชัด ได้แก่ การซื้อขายที่ดินทั้งประเทศที่มีมูลค่า 38,068 ล้านบาท หดตัวลงจากปีก่อนหน้าถึง 8.5% ซึ่งเป็นการหดตัวอย่างต่อเนื่องจากเดือนมีนาคมที่มูลค่าการซื้อขายที่ดินลดลงจากปีก่อน 7.7% นอกจากนั้นจำนวนรายการซื้อขายที่ดินก็หดตัวตามด้วย โดยมีรายการซื้อขายที่ดินในเดือนเมษายนมีจำนวน 63,946 รายการ หดตัวลงจากปีก่อน 7.1% และหดตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า 3% ขณะที่พื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างในเขตเทศบาลทั่วประเทศ เดือนเมษายน ก็ขยายตัวชะลอลงจากเดือนมีนาคมโดยมีพื้นที่ทั้งหมด 1,536,000 ตารางเมตร เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 25.2% และชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวได้ถึง 32.6% จากสาเหตุด้านความต้องการซื้อ (อุปสงค์) ที่ชะลอ
สอดคล้องกับข้อมูลการเปิดตัวโครงการใหม่ ณ เดือนพฤกษาคม 2549 ที่สำรวจโดยบริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด พบว่ามีจำนวนโครงการที่เปิดใหม่เพียง 28 โครงการ มากกว่าเดือนที่ผ่านมาเพียง 2 โครงการ โดยมีจำนวนรวมกันทั้งสิ้น 5,484 หน่วย มีมูลค่าโครงการรวม 12,958 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย บ้านเดี่ยว สัดส่วน 23% บ้านแฝด มีสัดส่วน 7% ทาวน์เฮ้าส์ สัดส่วน 23% อาคารพาณิชย์ สัดส่วน 5% และอาคาร สัดส่วน 42% โดยมีจำนวนอาคารชุดมากที่สุด ถึง 2,272 หน่วย และมูลค่าของอสังหาฯ ที่เปิดตัวในเดือนนี้ต่ำกว่าเดือนที่ผ่านมาถึง 3,494 ล้านบาท ลดลงประมาณ 21% แต่ด้านจำนวนเพิ่มขึ้น 17% หรือ 777 หน่วย และมีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยต่ำกว่า เนื่องจากมีจำนวนหน่วยขายที่มีระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท สูงถึง 75% ของหน่วยขายทั้งหมด ซึ่งราคาขายเฉลี่ยของเดือนนี้สูงเพียง 2.363 ล้านบาทต่อหน่วยซึ่งเดือนที่ผ่านมามีราคาขายเฉลี่ยสูงถึง 3.495 ล้านบาทต่อหน่วย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2128 06 ก.ค. - 08 ก.ค. 2549
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น