25 มิถุนายน 2549

ตัน ศรี มุสตาฟา คามาล 'โอกาสทำธุรกิจไม่เคยสิ้นสุด'

"เราคาดหวังว่า ปีนี้จะเป็นปีที่ เอ็มเค แลนด์ ตกต่ำที่สุด และเมื่อถึงปีหน้า ทุกอย่างก็จะฟื้นตัวดีขึ้น"คำกล่าวนี้ เป็นของ ตัน ศรี มุสตาฟา คามาล (Tan Sri Mustapha Kamal) ประธานบริหาร เอ็มเค แลนด์โฮลดิ้งส์ (MK Land Holdings Bhd) หลังจากประกาศปรับโครงสร้างการลงทุน หันมาเน้นการพัฒนาบ้านระดับหรู และราคาสูง แทนการพัฒนาอพาร์ทเม้นท์และคอนโดมิเนียมที่เป็นตึกสูง ซึ่งที่ผ่านมาได้รับผลกระทบด้านยอดขายเนื่องจากถูกปรับเพราะไม่สามารถก่อสร้างได้เสร็จตามกำหนดมุสตาฟา เผยว่า กลางปี 2549 นี้ เอ็มเค แลนด์ จะเปิดตัวโครงการใหม่เป็นบ้านเดี่ยว ช่วงแรกประมาณ 40-50 หลังราคาหลังละกว่า 1 ล้านริงกิต หรือประมาณ 10 ล้านบาท เป้าหมาย เพื่อช่วยดันยอดขายที่ตกต่ำมาตั้งแต่ปี 2545 และเป็นการปรับตัว หันมาสร้างบ้านระดับบน แทนบ้านราคาถูกที่เน้นแต่ปริมาณในช่วงที่ผ่านมาทั้งนี้ เอ็มเค แลนด์ นับเป็นบริษัทสร้างบ้าน รายใหญ่อันดับ 7 ของมาเลเซียในด้านมาร์เก็ตแคป มีชื่อเดิมว่า EMKAY Group of Company ก่อตั้งขึ้นโดยมุสตาฟา เมื่อ 1 มีนาคม 2526 ขณะนั้นสำนักงานเป็นห้องแถวเพียงสองห้องอยู่แถบ วิสมา เอ็มพีไอ กัวลาลัมเปอร์ ตั้งแต่ มุสตาฟาก่อตั้งบริษัทมา ได้ดำเนินธุรกิจด้านการลงทุนในพร็อพเพอร์ตีหลากหลาย โครงการ รวมทั้งงานก่อสร้าง ทำภูมิทัศน์ รีสอร์ท ภาคเกษตร การผลิต และการศึกษา หลังจากอดทนฟันฝ่าธุรกิจที่ท้าทายมานานกว่า 20 ปี และต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำถึง 2 ครั้ง เอ็มเคแลนด์ ถือเป็นบริษัทพัฒนาพร็อพเพอร์ตีเพียงรายเดียวที่ยังคงยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งจนถึงทุกวันนี้โครงการขนาดใหญ่ที่สร้างชื่อเสียงให้แก่ เอ็มเค แลนด์ ได้แก่ ดามันซารา ดาไมโครงการบ้านราคาถูก 12,000 ยูนิต, ดามัน บังกา รายา โครงการบ้านระดับกลางและล่าง รวมศูนย์อุตสาหกรรม 17,000 ยูนิต , บูกิต เมระฮ์ เลคทาวน์ รีสอร์ท โครงการทาวน์ชิบพร้อมแหล่งสันทนาการ 14,000 ยูนิต, ดามัน ซายา เปอร์ดานะ โครงการบ้านพักอาศัย 6,000 ยูนิต และ เคอริน่า วัลเล่ย์ โครงการบ้านพักอาศัย และศูนย์อุตสาหกรรม 26,000 ยูนิต โดยมีแลนด์แบงก์ที่พัฒนาแล้วกว่า 6,800 เอเคอร์ มูลค่าที่พัฒนาแล้วกว่า 20,000 ล้านริงกิต หรือประมาณ 200,000 ล้สนบาท นอกจากนี้ยังมีการลงทุนและพัฒนาพร็อพเพอร์ตีอื่นๆ ซึ่งนอกจากบ้านราคาถูกไปจนถึงคอนโดมิเนียมราคาสูง แล้ว ยังมี สวนสนุก และรีสอร์ท อีกหลายแห่ง ใน เคดะฮ์ เปรัค และ ซาลังงอร์ เป็นต้น"ตอนนี้เรายังไม่มีแผนที่จะรีบซื้อที่ดินใหม่เพิ่ม เพราะยังมีที่ดินที่ยังไม่ได้พัฒนา ที่ ดามันซารา ปังกา รายา ลังกาวี ลากูน อีก 544 เอเคอร์ ที่ บูกิต เมระฮ์ ไทปิง 1,347 เอเคอร์ และที่ เซเตียวังซา อีก 98 เอเคอร์"สำหรับตัว ตัน ศรี มุสตาฟา ถือเป็นดิเวลอปเปอร์ที่อยู่ในวงการอสังหาริมทรัพย์มานาน โดยปี 2513 เริ่มต้นทำงานเป็นผู้ช่วยเขตที่สำนักงานที่ดิน ต่อมาไปเป็นรองคณะกรรมาธิการด้านที่ดินและเหมืองแร่ ที่รัฐซาลังงอร์ ภายหลังมาทำงานกับ อลัม พร็อพเพอร์ตี เป็นกรรมการผู้จัดการ ปี 2526 ออกมาตั้งบริษัท EMKEY Group of companies ของตัวเอง ภายหลังเปลี่ยนชื่อ เอ็มเค แลนด์ โฮลดิ้งส์ จนกระทั่ง 27 สิงหาคม 2542 จึงนำบริษัทเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กัวลาลัมเปอร์ มีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 1.174 พันล้านริงกิต เขาได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการบริษัท เอ็มเค แลนด์ เมื่อ 19 สิงหาคม 2542นอกจากนี้ยังเป็นกรรมการ มาเลเซีย เซ้าธ์-เซ้าธ์ คอร์ปอเรชั่น กรรมการบริษัท เพอร์บาดานัน พูตราจายา และอีกหลายๆแห่ง ยังไม่รวมรางวัลแห่งความสำเร็จ เช่น รางวัล Entrepreneur of Selangor ปี 2538 จากหอการค้ามาเลเซีย รางวัล FIABI Property Man of The Year ปี 2540 รางวัลบุคคลเด่น แห่งปี 2544 จาก คณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมก่อสร้าง และอีกจำนวนมากเขา กล่าวถึง ยุทธศาสตร์ในการทำธุรกิจ ว่า "โอกาสที่อยู่ข้างหน้านั้น มีไม่สิ้นสุด เราจึงต้องพยายามเข้าไปมีบทบาทสำคัญที่จะสร้างความเป็นอยู่ของคนมาเลเซียให้ดีขึ้น และพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆเพื่อจะได้ก้าวไปสู่การเป็นดิเวลอปเปอร์ระดับแถวหน้าในตลาดพร็อพเพอร์ตี"
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2125 25 มิ.ย. - 28 มิ.ย. 2549

ไม่มีความคิดเห็น:

คลังบทความของบล็อก