สหรัฐอเมริกา นับเป็นประเทศที่มี พร็อพเพอร์ตีดิเวลอปเปอร์จำนวนมาก ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นผลมาจากสหรัฐฯ เป็นประเทศขนาดใหญ่ และเศรษฐกิจแข็งแกร่ง มีชนหลายสัญชาติเขาไปอาศัยและบุกเบิกธุรกิจต่างๆ จนกลายเป็นมหาเศรษฐีระดับประเทศหลายคน โดยเฉพาะด้านอสังหาริมทรัพทย์ และหนึ่งในกลุ่มนี้ คือ อลัน คาสเดน (Alan Casden) เจ้าของ ฉายา " มหาเศรษฐีนักสร้างอพาร์ทเม้นท์" เจ้าของและประธาน บริษัท คาสเดน พร็อพเพอร์ตี (Casden Properties) และเจ้าของคอนโดมิเนียมหรู 60 แห่งใจกลาง เบเวอรี่ ฮิลล์
อลัน เป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีสหรัฐฯ ที่สร้างตัวเองจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในแถบลอสแองเจลีส หลังจากที่เรียนจบสาขาบัญชี จากมหาวิทยาลัยเซ้าธ์เทิร์นแคลิฟอร์เนีย (USC) เมื่อปี 2511 ปัจจุบันสาขาบัญชีที่เขาเรียนเปลี่ยนเป็น USC Leventhal of Accounting ก่อนเรียนจบระดับมหาวิทยาลัย หนึ่งในศาสตราจารย์ที่เคยสอนเขา และต่อมาได้เป็นประธานโรงเรียนบัญชีแห่งนี้ ชื่อ แอนดี้ โมสิช สนับสนุนให้เขาเป็นอาจารย์ และแต่งตั้งให้ทำงานในบริษัทบัญชี ที่เกี่ยวกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่ง จากประสบการณ์ในงานทำให้เขาสนใจธุรกิจ อสังหาฯ สุดท้ายจึงลาออก และตั้งบริษัทพัฒนาอสังหาฯ "คาสเดน พร็อพเพอร์ตี อิงค์" ของตัวเองในปี 2518 ซึ่งตอนนั้นเขามีเงินเก็บเพียง 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่นั้นมาได้สร้างบริษัทจนกลายเป็นหนึ่งในบริษัทพัฒนาที่พักอาศัยรายใหญ่ของประเทศ โดยมี แอนดี้ เป็นทั้งเพื่อนและที่ปรึกษาให้
อลันพัฒนาอพาร์ทเม้นท์ประมาณ 90,000 แห่งทั่วสหรัฐ ในปี 2544 เขาตัดสินใจขายพอร์ตการลงทุนที่มีอยู่ทั่วประเทศให้กับบริษัทลงทุนด้านอสังหาฯ ชื่อ Apartment Investment & Management (AIMCO) และหันมาพัฒนาธุรกิจ คาสเดน พร็อพเพอร์ตี อย่างเดียว โดยโฟกัสการพัฒนา มัลติแฟมิลี ในแถบชานเมือง โครงการที่พัฒนามีทั่วประเทศ เช่น โครงการ Park LaBrea , อพาร์ทเม้นท์หรู 521 แห่ง ประกอบด้วยอพาร์ทเม้นท์ขนาด 1 และ 2 ห้องนอน และทาวเฮ้าส์สองชั้นขนาด 720-2,060 ตารางฟุต ค่าเช่าระดับ 2,000-5,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน
ในระยะที่สร้างบริษัท อลันได้สร้างครอบครัวขนาดใหญ่พร้อมๆกันไปด้วย โดย มีลูก 5 คน มี 2 คนกำลังเรียนระดับวิทยาลัย "ผมสนับสนุนให้ลูกรับทุกอย่างที่เรียนจากวิทยาลัยมาให้ได้มากที่สุด "โดยกล่าวย้ำว่าประสบการณ์จากชีวิตในรั้ววิทยาลัยเป็นสิ่งที่มีค่าในฐานะความสำเร็จทางวิชาการ
นับตั้งแต่ อลันเรียนจบ เขายังคงติดต่อใกล้ชิดกับมหาวิทยาลัยเซ้าเทิร์นแคลิฟอร์เนีย โดยเป็นสมาชิกของ USC Marshall School of Business Board of Visitors และกรรมการอื่นๆ ล่าสุดเขาได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการที่ตั้งขึ้นจัดการมหาวิทยาลัย( USC Board of Trustee) สืบ เนื่องจากสายสัมพันธ์อันยาวนานกับมหาวิทยาลัยแห่งนี้
ภายใต้ความสำเร็จในการพัฒนาอสังหาฯ อลันได้รับเกียรติจากองค์กรต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน ลอสแองเจลีสและทั่วประเทศ ในฐานะนักธุรกิจที่มีไหวพริบเฉียบแหลม และการช่วยเหลือพัฒนาชุมชน โดยเขาได้รับรางวัลผู้นำแห่งพื้นที่ ลอส แองเจลีส จากการบุกเบิกและสร้างบ้านสำหรับผู้มีรายได้ต่ำ รวมทั้งการพัฒนาโครงการบ้านพักอาศัยแบบมัลติแฟมิลี่ เช่น โครงการบ้านมาลิบู, แคนยอนและอินเดียนฮิลล์, อพาร์ทเม้นท์ฮิลล์เครส และโครงการสร้างบ้าน 900 หลัง ใน ซิมิวัลเล่ย์ ซึ่งได้รับการยอมรับด้านการสร้างและออกแบบ ตลอดทั้งในอิสลาเอล
นอกจากนี้เขายังเป็นประธานร่วม Board of Trustee แห่ง Simon Wiesenthal Center หรือสำนักงานสิทธิมนุษยชนนานาชาติ และยังเป็นคนประสานงานสร้าง Museum of Tolerance ในลอส แองเจลีสปี 2536 และได้รับฉาย ว่า " Friend of Jerusalem" หรือ เพื่อนแห่งเยรูซาเลม ซึ่งเขานั่งเป็นกรรมการช่วยเหลือด้านต่างๆ และยังสะสมวัตถุโบราณของยิวไว้จำนวนมาก มีส่วนร่วมด้านการเมืองทั้งในระดับท้องถิ่น รัฐ และประเทศ
ปัจจุบัน อลัน อายุ 61 ปี เขาเคยมีคดีความ ประเด็นแถลงการณ์ที่ทำให้ผู้ถือหุ้นเข้าใจผิด เรื่องขอมติอนุมัติการโอนหุ้น อพาร์ทเม้นท์ 98 แห่ง ซึ่งเป็นตัวเลขประมาณ 77 ล้านดอลลาร์ สุดท้ายเขาได้ฟ้องกลับทนายที่ทำเรื่องนี้
อลัน เป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีสหรัฐฯ ที่สร้างตัวเองจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในแถบลอสแองเจลีส หลังจากที่เรียนจบสาขาบัญชี จากมหาวิทยาลัยเซ้าธ์เทิร์นแคลิฟอร์เนีย (USC) เมื่อปี 2511 ปัจจุบันสาขาบัญชีที่เขาเรียนเปลี่ยนเป็น USC Leventhal of Accounting ก่อนเรียนจบระดับมหาวิทยาลัย หนึ่งในศาสตราจารย์ที่เคยสอนเขา และต่อมาได้เป็นประธานโรงเรียนบัญชีแห่งนี้ ชื่อ แอนดี้ โมสิช สนับสนุนให้เขาเป็นอาจารย์ และแต่งตั้งให้ทำงานในบริษัทบัญชี ที่เกี่ยวกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่ง จากประสบการณ์ในงานทำให้เขาสนใจธุรกิจ อสังหาฯ สุดท้ายจึงลาออก และตั้งบริษัทพัฒนาอสังหาฯ "คาสเดน พร็อพเพอร์ตี อิงค์" ของตัวเองในปี 2518 ซึ่งตอนนั้นเขามีเงินเก็บเพียง 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่นั้นมาได้สร้างบริษัทจนกลายเป็นหนึ่งในบริษัทพัฒนาที่พักอาศัยรายใหญ่ของประเทศ โดยมี แอนดี้ เป็นทั้งเพื่อนและที่ปรึกษาให้
อลันพัฒนาอพาร์ทเม้นท์ประมาณ 90,000 แห่งทั่วสหรัฐ ในปี 2544 เขาตัดสินใจขายพอร์ตการลงทุนที่มีอยู่ทั่วประเทศให้กับบริษัทลงทุนด้านอสังหาฯ ชื่อ Apartment Investment & Management (AIMCO) และหันมาพัฒนาธุรกิจ คาสเดน พร็อพเพอร์ตี อย่างเดียว โดยโฟกัสการพัฒนา มัลติแฟมิลี ในแถบชานเมือง โครงการที่พัฒนามีทั่วประเทศ เช่น โครงการ Park LaBrea , อพาร์ทเม้นท์หรู 521 แห่ง ประกอบด้วยอพาร์ทเม้นท์ขนาด 1 และ 2 ห้องนอน และทาวเฮ้าส์สองชั้นขนาด 720-2,060 ตารางฟุต ค่าเช่าระดับ 2,000-5,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน
ในระยะที่สร้างบริษัท อลันได้สร้างครอบครัวขนาดใหญ่พร้อมๆกันไปด้วย โดย มีลูก 5 คน มี 2 คนกำลังเรียนระดับวิทยาลัย "ผมสนับสนุนให้ลูกรับทุกอย่างที่เรียนจากวิทยาลัยมาให้ได้มากที่สุด "โดยกล่าวย้ำว่าประสบการณ์จากชีวิตในรั้ววิทยาลัยเป็นสิ่งที่มีค่าในฐานะความสำเร็จทางวิชาการ
นับตั้งแต่ อลันเรียนจบ เขายังคงติดต่อใกล้ชิดกับมหาวิทยาลัยเซ้าเทิร์นแคลิฟอร์เนีย โดยเป็นสมาชิกของ USC Marshall School of Business Board of Visitors และกรรมการอื่นๆ ล่าสุดเขาได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการที่ตั้งขึ้นจัดการมหาวิทยาลัย( USC Board of Trustee) สืบ เนื่องจากสายสัมพันธ์อันยาวนานกับมหาวิทยาลัยแห่งนี้
ภายใต้ความสำเร็จในการพัฒนาอสังหาฯ อลันได้รับเกียรติจากองค์กรต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน ลอสแองเจลีสและทั่วประเทศ ในฐานะนักธุรกิจที่มีไหวพริบเฉียบแหลม และการช่วยเหลือพัฒนาชุมชน โดยเขาได้รับรางวัลผู้นำแห่งพื้นที่ ลอส แองเจลีส จากการบุกเบิกและสร้างบ้านสำหรับผู้มีรายได้ต่ำ รวมทั้งการพัฒนาโครงการบ้านพักอาศัยแบบมัลติแฟมิลี่ เช่น โครงการบ้านมาลิบู, แคนยอนและอินเดียนฮิลล์, อพาร์ทเม้นท์ฮิลล์เครส และโครงการสร้างบ้าน 900 หลัง ใน ซิมิวัลเล่ย์ ซึ่งได้รับการยอมรับด้านการสร้างและออกแบบ ตลอดทั้งในอิสลาเอล
นอกจากนี้เขายังเป็นประธานร่วม Board of Trustee แห่ง Simon Wiesenthal Center หรือสำนักงานสิทธิมนุษยชนนานาชาติ และยังเป็นคนประสานงานสร้าง Museum of Tolerance ในลอส แองเจลีสปี 2536 และได้รับฉาย ว่า " Friend of Jerusalem" หรือ เพื่อนแห่งเยรูซาเลม ซึ่งเขานั่งเป็นกรรมการช่วยเหลือด้านต่างๆ และยังสะสมวัตถุโบราณของยิวไว้จำนวนมาก มีส่วนร่วมด้านการเมืองทั้งในระดับท้องถิ่น รัฐ และประเทศ
ปัจจุบัน อลัน อายุ 61 ปี เขาเคยมีคดีความ ประเด็นแถลงการณ์ที่ทำให้ผู้ถือหุ้นเข้าใจผิด เรื่องขอมติอนุมัติการโอนหุ้น อพาร์ทเม้นท์ 98 แห่ง ซึ่งเป็นตัวเลขประมาณ 77 ล้านดอลลาร์ สุดท้ายเขาได้ฟ้องกลับทนายที่ทำเรื่องนี้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2120 08 มิ.ย. - 10 มิ.ย. 2549
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น