อสังหาริมทรัพย์

19 เมษายน 2550

"ธนินท์"ทุ่มหมื่นล้านผุด"ซีพีซิตี้" บูมทำเล"สุวรรณภูมิ-บางนา"กระหึ่ม

เปิดแผนพัฒนาที่ดินอภิมหาโปรเจ็กต์เจ้าสัว "ธนินท์ เจียรวนนท์" ปูทางสร้างเมืองใหม่โครงการหมื่นล้าน "ซี.พี.ซิตี้" บูมกระแสทำเลทองโซนสุวรรณภูมิ รองรับบริษัทในเครือแบบครบวงจร ทั้งธุรกิจเกษตร สื่อสาร และอสังหาริมทรัพย์ในอีก 5 ปีข้างหน้า ดึงซินแสจากจีนดูฮวงจุ้ยเพิ่มโชคลาภ เผยคอนเซ็ปต์สร้างอาคารสำนักงานใหญ่เครือเจริญโภคภัณฑ์และทรู พร้อมรุกสู่ธุรกิจเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบ

แหล่งข่าวจากวงการอสังหาริมทรัพย์เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ล่าสุดนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซี.พี.) ได้กำหนดแผนโครงการไว้แล้ว สำหรับการสร้างเมืองเพื่อธุรกิจ ซี.พี.โดยเฉพาะ ในทำเลทองโซนสุวรรณภูมิ ถนนบางนา-ตราด ก.ม.7 ใกล้กับบริเวณมหาวิทยาลัยรามคำแหง 2

เป้าหมายเพื่อรองรับบริษัทในเครือที่กระจัด กระจายอยู่จำนวนมากให้รวมเป็น "หนึ่งเดียวทำเลเดียว" แบบครบวงจร ทั้งธุรกิจเกษตร สื่อสาร และอสังหาริมทรัพย์ในอีก 5 ปีข้างหน้า รวมมูลค่าการลงทุนขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท

สร้างฝันด้วยพลังฮวงจุ้ย

"หัวใจหลักของอภิมหาโปรเจ็กต์นี้ นอกจากจะเป็นความฝันของเจ้าสัวธนินท์แล้ว การดูฮวงจุ้ยก็ถือว่าสำคัญมาก เพราะการลงทุนรอบนี้เป็นเหมือนการวางรากฐานในจุดเริ่มต้นครั้งใหม่ของเจเนอเรชั่นรุ่นลูก โดยมีซินแสกุ่ย หมอดูฮวงจุ้ยจากจีนที่เจ้าสัวนับถือมากเป็นผู้ดูแลโครงการนี้โดยตรง และมีการแนะให้สร้างสระน้ำขนาดใหญ่หน้าโครงการ ซึ่งแสดงถึงพลังเคลื่อนไหวเพิ่มโชคลาภแก่วงศ์ตระกูลและมีสะพานเชื่อมแสดงถึงความสามัคคีก้าวสู่ความสำเร็จ" แหล่งข่าวกล่าวและว่า

ลักษณะโครงการดังกล่าวประธานเครือ ซี.พี. วางคอนเซ็ปต์ไว้ว่า ในอนาคตผืนดินแปลงนี้จะเป็นศูนย์รวมธุรกิจที่จะเอื้อประโยชน์ถึงกันหมด โดยดึงความเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์อาหารและผู้นำด้านเทคโนโลยีเป็นแม่เหล็กดึงดูด เพราะต่อไปรัศมีรอบโซนสนามบินสุวรรณภูมิจะเป็นแหล่งจ้างงานและค้าขายที่ใหญ่ที่สุด

ดังนั้นที่แปลงนี้จะมีการพัฒนาสู่ธุรกิจเชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งโครงการคอนโด มิเนียม โรงแรม ศูนย์ค้าปลีก ช็อปปิ้งมอลล์ พลาซ่าร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดและร้านสะดวกซื้อที่ครบวงจรเหมือนต่างประเทศ นอกเหนือจากเป็นศูนย์รวมอาณาจักรเมือง ซี.พี.ซิตี้ หรือเรียกชื่อเป็นการภายในว่า "ซี.พี.เฮดควอเตอร์"

แหล่งข่าวระบุมีแนวโน้มว่า นายธนินท์อาจจะวางตัวให้นายศุภกิจ เจียรวนนท์ ลูกชายคนโต ซึ่งดูแลธุรกิจในประเทศจีนเข้ามารับผิดชอบงานในโครงการนี้ด้วย และอาจมีมืออาชีพซึ่งเป็นคนเก่าแก่ของกลุ่ม ซี.พี.เข้ามาช่วยอีกแรงหนึ่ง รวมไปถึงการทาบทามคนรุ่นใหม่ ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูนสินธนา อดีตผู้บริหารวังทอง, ซัมซุง ปัจจุบันเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาด บริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ให้เข้ามาเสริมทัพเพื่อหลอมธุรกิจอสังหาฯและสื่อสาร เข้าด้วยกัน

ขณะที่ธุรกิจอสังหาฯของครอบครัวของนายธนินท์ ปัจจุบันได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านบริษัท DT Group ซึ่งเป็นชื่อย่อภาษาอังกฤษนำหน้าของนายธนินท์ คือตัว D กับคุณหญิงเทวี คือตัว T

ส่วนคำว่า Group นั้น บ่งบอกถึงความหลากหลายของธุรกิจในเครือตั้งแต่อสังหาริมทรัพย์ รับเหมาก่อสร้าง ร้านช็อปจำหน่ายสินค้าพรีเมี่ยมและตุ๊กตาสะสมนำเข้าจากต่างประเทศ ในธุรกิจกลุ่มนี้มีลูกสาวคนเล็ก นางทิพาภรณ์ เจียรวนนท์ เป็นผู้รับผิดชอบ และเป็นสปอนเซอร์หลักเรื่องบ้าน ในโครงการ AF 3 ทำให้โครงการแรก บ้านแมกโนเลียส์ (Magnolias) บางนา ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้วประสบความสำเร็จ

ล่าสุดกลุ่มดีทีกรุ๊ปได้ลงทุนโครงการใหม่ผ่านบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวลอปเม้นท์ คอร์ปอเรชั่น เปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมเกาะแนวรถไฟฟ้า ทำเลสุขุมวิทส่วนต่อขยาย อ่อนนุช-สำโรง ชื่อว่า "เดอะ มิวส์" (The Muse, Sukhumvit) คอนโดฯไลฟ์สไตล์ 7 ชั้น มูลค่า 250 ล้านบาทและมีแผนจะขึ้นโครงการใหม่ในทำเลบางนา รองรับโซนสุวรรณภูมิอย่างต่อเนื่อง

"กับธุรกิจอสังหาฯที่ลูกสาวคนเล็กดูแลอยู่ ก็มีแนวโน้มว่าเจ้าสัวจะลงมากำกับทิศทาง เพราะตอนนี้ยังไม่นิ่ง ทำให้ความโดดเด่นดูด้อยไป ที่สำคัญลูกสาวนายธนินท์ยังไม่อยากเปิดตัว แต่มีแผนลงทุนต่อเนื่อง โดยใช้ที่ดินบางส่วนของกลุ่ม ซี.พี. แลนด์มาต่อยอดเพิ่มประโยชน์กับบริษัทดีทีฯ

"ตามหลักฮวงจุ้ย เจ้าสัวได้ปูทางเลือกโซนตะวันออกเป็นทิศเบิกฤกษ์มาแล้วตั้งแต่แรก ดูจากการสร้างบ้านส่วนตัวมูลค่า 600 ล้านบาท ในโครงการวินด์มิลล์ บางนา-ตราด รวมถึงความตั้งใจซื้อที่ดินแถบนี้เก็บไว้ในมือให้มากที่สุด ปัจจุบันก็ยังซื้ออยู่ แพงบ้าง ถูกบ้าง เฉลี่ยกันไป เรียกได้ว่า ถ้าเป็นโซนนี้เครือ ซี.พี.คือเจ้าพ่อแลนด์ลอร์ดตัวจริง"

เช่นเดียวกับเจ้าสัวเมืองไทยในระนาบเดียวกับเจ้าสัว ซี.พี.อย่างนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการ บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เจ้าของเบียร์ช้าง และประธานกรรมการ บริษัทร่วมทุนไทย-สิงคโปร์ "ที.ซี.ซี.แคปปิตอลแแลนด์" เป็นเจ้าพ่อแลนด์ลอร์ด ทำเลทองถนนเกษตร-นวมินทร์ในขณะนี้

"ก่อนหน้านี้เรารับรู้กันว่า แลนด์ลอร์ดใหญ่ๆ ย่านโซนสุวรรณภูมิ ถ้าเป็นคลื่นลูกเก่าจะมีกลุ่มเอ็มไทยกรุ๊ปของตระกูล "วีระเมธีกุล" กลุ่มกรีนวัลเล่ย์ของนายชนัฏ เรืองกฤตยา เมื่อครั้งฟองสบู่แตก คลื่นลูกใหม่ก็มาแทนที่ โดยมีเครือข่ายกลุ่มตระกูล "ชินวัตร" กลายเป็นตัวแปรในการกว้านซื้อที่ทุกรูปแบบ ขณะที่กลุ่มเจ้าสัว ซี.พี. ยังหนักแน่นในการไล่ซื้อที่ดินเก็บไว้ในมืออย่างต่อเนื่อง" แหล่งข่าวให้มุมมองเรื่องการถือครองที่ดินของกลุ่มทุนขนาดใหญ่

ฉีกแผนสุวรรณภูมิมหานคร

อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวตั้งข้อสังเกตว่า ก่อนหน้าที่ ร่าง พ.ร.บ.สุวรรณภูมิมหานคร หรือแผนจัดตั้งสุวรรณภูมิมหานครของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย จะถูกยกเลิกโดยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2550 ที่ผ่านมา นักธุรกิจในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ได้

วิพากษ์วิจารณ์หลายแนวทางกับปัญหาบานปลายทางการเมืองสองขั้วซึ่งมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

"สรุปแล้วกรอบการพัฒนาเมืองสุวรรณภูมิมหานครจะมีประโยชน์กับกลุ่มนักพัฒนาที่ดินเต็มๆ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ถ้าร่างกฎหมายผ่านตอนนี้ ต่อไปการก่อสร้างจะถูกจำกัดขอบเขตค่อนข้างมาก แต่จะดีในแง่การกำหนดทิศทางการพัฒนาเมืองให้ได้มาตรฐาน ไม่เติบโตแบบสะเปะสะปะ" แหล่งข่าว กล่าวและชี้ประเด็นว่า

หากวิเคราะห์ถึงกลุ่มทุนเจ้าของที่ดิน เบื้องต้นเมื่อพิมพ์เขียว "สุวรรณภูมิมหานคร" ถูกยกเลิกไป บางมุมอาจมองเหมือนว่า กลุ่มทุนได้รับผลกระทบเมื่อไม่มีแผนพัฒนาเมืองที่กำหนดโดยรัฐบาล แต่บางมุมกลับมองว่า อาจเป็นโอกาสที่ดีของนักพัฒนาที่ดินหรือกลุ่มทุนขนาดใหญ่ที่มีแผนลงทุนสร้างสิ่งปลูกสร้างหลากหลายรูปแบบ โดยสามารถใช้ประโยชน์จากที่ดินเต็มผืนทั้งแนวราบและแนวดิ่ง

จากจังหวะช่วงรอยต่อนี้เอง ทำให้นายฐิระวัตร กุลละวณิชย์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง

ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชนว่า กรมมีนโยบายจะเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบร่างกฎกระทรวงควบคุมการก่อสร้างทั้งหมดในโซนสุวรรณภูมิ เพื่อสร้างมิติใหม่ของความเป็นระเบียบและได้มาตรฐานของการพัฒนาเมืองในอนาคต

ทั้งนี้การประกาศของกรมโยธาฯเกิดขึ้นหลังจากแผนจัดตั้งสุวรรณภูมิมหานครที่ริเริ่มสมัยพรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาลถูกยกเลิก เป็นไปได้ว่า ถ้านโยบายของกรมโยธาฯเป็นไปอย่างราบรื่น ภาคเอกชนต้องมีการปรับตัวในการคำนวณต้นทุนที่ดิน และขั้นตอนต่างๆ จากการขออนุญาตสร้างสิ่งปลูกสร้างอาคารนับจากนี้ แทนการปรับตัวจากพื้นที่ที่จะถูกควบคุม ตามแผนจัดตั้งสุวรรณภูมิมหานครกว่า 500 ตารางกิโลเมตรก่อนหน้านี้

รายงานข่าวแจ้งว่า ร่างกฎกระทรวงของกรมโยธาฯจะแบ่งการใช้ประโยชน์ที่ดินรอบสนามบินสุวรรณภูมิเป็น 10 โซน ให้เจ้าของที่ดินใช้ประโยชน์ที่ดินตามความเหมาะสมและศักยภาพของพื้นที่ โดยจะควบคุมการก่อสร้างอาคารสูง อาคารขนาดใหญ่อย่างรัดกุมเข้มงวด ไม่ว่าจะเป็นมลพิษทางเสียง ปัญหาน้ำท่วม โดยจะกันพื้นที่บางส่วนเป็นแนวรับน้ำหรือฟลัดเวย์

ในส่วนของการควบคุมความสูงอาคารนั้น ปัจจุบันกฎกระทรวงมหาดไทยปี 2547 ยังมีผลบังคับใช้ โดยแบ่งการควบคุมอาคารเป็น 3 ระยะ คือระยะห่างจากสนามบิน 300 เมตร คุมความสูง 12 เมตร ระยะห่างจากบริเวณแรก 700 เมตร ควบคุมความสูง 18 เมตร และระยะห่างจากบริเวณที่ 2 อีก 1,500 เมตร คุมความสูง 23 เมตร

โดยกลุ่มบริษัทพัฒนาที่ดิน อาทิ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค, ศุภาลัย, นารายณ์ พร็อพเพอร์ตี้, กฤษดามหานคร, เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้, ปรีชากรุ๊ป, ชาญอิสสระ, พฤกษา เรียล เอสเตท ไม่ได้หวั่นไหวกับการยกเลิกแผนจัดตั้งสุวรรณภูมิมหานครแต่อย่างไร

หลายฝ่ายกลับมองว่า สิ่งที่รัฐดำเนินการอยู่เป็นเรื่องของอนาคต ผลกระทบยังไม่เห็นเด่นชัด แต่สิ่งที่น่ากังวลมากที่สุดในขณะนี้กลับเป็นปัญหาเศรษฐกิจเกิดภาวะชะลอตัว เพราะกำลังซื้อถดถอย ทำให้ 3 สมาคมอสังหาฯเร่งผลักดันให้กระทรวงการคลังออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านธุรกิจอสังหาฯ

นายสงกรานต์ อิสสระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทไม่ได้คาดหวังกับนโยบายการพัฒนาสุวรรณภูมิมหานคร เพราะการพัฒนาโครงการโดยยึดติดกับนโยบายการพัฒนาของภาครัฐที่ยังไม่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่เสี่ยงเกินไป ดังนั้นการยกเลิกร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวจึงไม่มีผลกระทบ

"ผมเห็นว่าทำเลสุวรรณภูมิสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง อย่างตัวผมก็มีอยู่ 1,000 ไร่ แต่ผมขอดูแนวโน้มเศรษฐกิจและความชัดเจนทางการเมืองก่อน"

จากหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 3889 (3089)

"ธนินท์"ทุ่มหมื่นล้านผุด"ซีพีซิตี้" บูมทำเล"สุวรรณภูมิ-บางนา"กระหึ่ม

เปิดแผนพัฒนาที่ดินอภิมหาโปรเจ็กต์เจ้าสัว "ธนินท์ เจียรวนนท์" ปูทางสร้างเมืองใหม่โครงการหมื่นล้าน "ซี.พี.ซิตี้" บูมกระแสทำเลทองโซนสุวรรณภูมิ รองรับบริษัทในเครือแบบครบวงจร ทั้งธุรกิจเกษตร สื่อสาร และอสังหาริมทรัพย์ในอีก 5 ปีข้างหน้า ดึงซินแสจากจีนดูฮวงจุ้ยเพิ่มโชคลาภ เผยคอนเซ็ปต์สร้างอาคารสำนักงานใหญ่เครือเจริญโภคภัณฑ์และทรู พร้อมรุกสู่ธุรกิจเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบ

แหล่งข่าวจากวงการอสังหาริมทรัพย์เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ล่าสุดนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซี.พี.) ได้กำหนดแผนโครงการไว้แล้ว สำหรับการสร้างเมืองเพื่อธุรกิจ ซี.พี.โดยเฉพาะ ในทำเลทองโซนสุวรรณภูมิ ถนนบางนา-ตราด ก.ม.7 ใกล้กับบริเวณมหาวิทยาลัยรามคำแหง 2

เป้าหมายเพื่อรองรับบริษัทในเครือที่กระจัด กระจายอยู่จำนวนมากให้รวมเป็น "หนึ่งเดียวทำเลเดียว" แบบครบวงจร ทั้งธุรกิจเกษตร สื่อสาร และอสังหาริมทรัพย์ในอีก 5 ปีข้างหน้า รวมมูลค่าการลงทุนขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท

สร้างฝันด้วยพลังฮวงจุ้ย

"หัวใจหลักของอภิมหาโปรเจ็กต์นี้ นอกจากจะเป็นความฝันของเจ้าสัวธนินท์แล้ว การดูฮวงจุ้ยก็ถือว่าสำคัญมาก เพราะการลงทุนรอบนี้เป็นเหมือนการวางรากฐานในจุดเริ่มต้นครั้งใหม่ของเจเนอเรชั่นรุ่นลูก โดยมีซินแสกุ่ย หมอดูฮวงจุ้ยจากจีนที่เจ้าสัวนับถือมากเป็นผู้ดูแลโครงการนี้โดยตรง และมีการแนะให้สร้างสระน้ำขนาดใหญ่หน้าโครงการ ซึ่งแสดงถึงพลังเคลื่อนไหวเพิ่มโชคลาภแก่วงศ์ตระกูลและมีสะพานเชื่อมแสดงถึงความสามัคคีก้าวสู่ความสำเร็จ" แหล่งข่าวกล่าวและว่า

ลักษณะโครงการดังกล่าวประธานเครือ ซี.พี. วางคอนเซ็ปต์ไว้ว่า ในอนาคตผืนดินแปลงนี้จะเป็นศูนย์รวมธุรกิจที่จะเอื้อประโยชน์ถึงกันหมด โดยดึงความเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์อาหารและผู้นำด้านเทคโนโลยีเป็นแม่เหล็กดึงดูด เพราะต่อไปรัศมีรอบโซนสนามบินสุวรรณภูมิจะเป็นแหล่งจ้างงานและค้าขายที่ใหญ่ที่สุด

ดังนั้นที่แปลงนี้จะมีการพัฒนาสู่ธุรกิจเชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งโครงการคอนโด มิเนียม โรงแรม ศูนย์ค้าปลีก ช็อปปิ้งมอลล์ พลาซ่าร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดและร้านสะดวกซื้อที่ครบวงจรเหมือนต่างประเทศ นอกเหนือจากเป็นศูนย์รวมอาณาจักรเมือง ซี.พี.ซิตี้ หรือเรียกชื่อเป็นการภายในว่า "ซี.พี.เฮดควอเตอร์"

แหล่งข่าวระบุมีแนวโน้มว่า นายธนินท์อาจจะวางตัวให้นายศุภกิจ เจียรวนนท์ ลูกชายคนโต ซึ่งดูแลธุรกิจในประเทศจีนเข้ามารับผิดชอบงานในโครงการนี้ด้วย และอาจมีมืออาชีพซึ่งเป็นคนเก่าแก่ของกลุ่ม ซี.พี.เข้ามาช่วยอีกแรงหนึ่ง รวมไปถึงการทาบทามคนรุ่นใหม่ ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูนสินธนา อดีตผู้บริหารวังทอง, ซัมซุง ปัจจุบันเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาด บริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ให้เข้ามาเสริมทัพเพื่อหลอมธุรกิจอสังหาฯและสื่อสาร เข้าด้วยกัน

ขณะที่ธุรกิจอสังหาฯของครอบครัวของนายธนินท์ ปัจจุบันได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านบริษัท DT Group ซึ่งเป็นชื่อย่อภาษาอังกฤษนำหน้าของนายธนินท์ คือตัว D กับคุณหญิงเทวี คือตัว T

ส่วนคำว่า Group นั้น บ่งบอกถึงความหลากหลายของธุรกิจในเครือตั้งแต่อสังหาริมทรัพย์ รับเหมาก่อสร้าง ร้านช็อปจำหน่ายสินค้าพรีเมี่ยมและตุ๊กตาสะสมนำเข้าจากต่างประเทศ ในธุรกิจกลุ่มนี้มีลูกสาวคนเล็ก นางทิพาภรณ์ เจียรวนนท์ เป็นผู้รับผิดชอบ และเป็นสปอนเซอร์หลักเรื่องบ้าน ในโครงการ AF 3 ทำให้โครงการแรก บ้านแมกโนเลียส์ (Magnolias) บางนา ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้วประสบความสำเร็จ

ล่าสุดกลุ่มดีทีกรุ๊ปได้ลงทุนโครงการใหม่ผ่านบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวลอปเม้นท์ คอร์ปอเรชั่น เปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมเกาะแนวรถไฟฟ้า ทำเลสุขุมวิทส่วนต่อขยาย อ่อนนุช-สำโรง ชื่อว่า "เดอะ มิวส์" (The Muse, Sukhumvit) คอนโดฯไลฟ์สไตล์ 7 ชั้น มูลค่า 250 ล้านบาทและมีแผนจะขึ้นโครงการใหม่ในทำเลบางนา รองรับโซนสุวรรณภูมิอย่างต่อเนื่อง

"กับธุรกิจอสังหาฯที่ลูกสาวคนเล็กดูแลอยู่ ก็มีแนวโน้มว่าเจ้าสัวจะลงมากำกับทิศทาง เพราะตอนนี้ยังไม่นิ่ง ทำให้ความโดดเด่นดูด้อยไป ที่สำคัญลูกสาวนายธนินท์ยังไม่อยากเปิดตัว แต่มีแผนลงทุนต่อเนื่อง โดยใช้ที่ดินบางส่วนของกลุ่ม ซี.พี. แลนด์มาต่อยอดเพิ่มประโยชน์กับบริษัทดีทีฯ

"ตามหลักฮวงจุ้ย เจ้าสัวได้ปูทางเลือกโซนตะวันออกเป็นทิศเบิกฤกษ์มาแล้วตั้งแต่แรก ดูจากการสร้างบ้านส่วนตัวมูลค่า 600 ล้านบาท ในโครงการวินด์มิลล์ บางนา-ตราด รวมถึงความตั้งใจซื้อที่ดินแถบนี้เก็บไว้ในมือให้มากที่สุด ปัจจุบันก็ยังซื้ออยู่ แพงบ้าง ถูกบ้าง เฉลี่ยกันไป เรียกได้ว่า ถ้าเป็นโซนนี้เครือ ซี.พี.คือเจ้าพ่อแลนด์ลอร์ดตัวจริง"

เช่นเดียวกับเจ้าสัวเมืองไทยในระนาบเดียวกับเจ้าสัว ซี.พี.อย่างนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการ บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เจ้าของเบียร์ช้าง และประธานกรรมการ บริษัทร่วมทุนไทย-สิงคโปร์ "ที.ซี.ซี.แคปปิตอลแแลนด์" เป็นเจ้าพ่อแลนด์ลอร์ด ทำเลทองถนนเกษตร-นวมินทร์ในขณะนี้

"ก่อนหน้านี้เรารับรู้กันว่า แลนด์ลอร์ดใหญ่ๆ ย่านโซนสุวรรณภูมิ ถ้าเป็นคลื่นลูกเก่าจะมีกลุ่มเอ็มไทยกรุ๊ปของตระกูล "วีระเมธีกุล" กลุ่มกรีนวัลเล่ย์ของนายชนัฏ เรืองกฤตยา เมื่อครั้งฟองสบู่แตก คลื่นลูกใหม่ก็มาแทนที่ โดยมีเครือข่ายกลุ่มตระกูล "ชินวัตร" กลายเป็นตัวแปรในการกว้านซื้อที่ทุกรูปแบบ ขณะที่กลุ่มเจ้าสัว ซี.พี. ยังหนักแน่นในการไล่ซื้อที่ดินเก็บไว้ในมืออย่างต่อเนื่อง" แหล่งข่าวให้มุมมองเรื่องการถือครองที่ดินของกลุ่มทุนขนาดใหญ่

ฉีกแผนสุวรรณภูมิมหานคร

อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวตั้งข้อสังเกตว่า ก่อนหน้าที่ ร่าง พ.ร.บ.สุวรรณภูมิมหานคร หรือแผนจัดตั้งสุวรรณภูมิมหานครของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย จะถูกยกเลิกโดยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2550 ที่ผ่านมา นักธุรกิจในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ได้

วิพากษ์วิจารณ์หลายแนวทางกับปัญหาบานปลายทางการเมืองสองขั้วซึ่งมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

"สรุปแล้วกรอบการพัฒนาเมืองสุวรรณภูมิมหานครจะมีประโยชน์กับกลุ่มนักพัฒนาที่ดินเต็มๆ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ถ้าร่างกฎหมายผ่านตอนนี้ ต่อไปการก่อสร้างจะถูกจำกัดขอบเขตค่อนข้างมาก แต่จะดีในแง่การกำหนดทิศทางการพัฒนาเมืองให้ได้มาตรฐาน ไม่เติบโตแบบสะเปะสะปะ" แหล่งข่าว กล่าวและชี้ประเด็นว่า

หากวิเคราะห์ถึงกลุ่มทุนเจ้าของที่ดิน เบื้องต้นเมื่อพิมพ์เขียว "สุวรรณภูมิมหานคร" ถูกยกเลิกไป บางมุมอาจมองเหมือนว่า กลุ่มทุนได้รับผลกระทบเมื่อไม่มีแผนพัฒนาเมืองที่กำหนดโดยรัฐบาล แต่บางมุมกลับมองว่า อาจเป็นโอกาสที่ดีของนักพัฒนาที่ดินหรือกลุ่มทุนขนาดใหญ่ที่มีแผนลงทุนสร้างสิ่งปลูกสร้างหลากหลายรูปแบบ โดยสามารถใช้ประโยชน์จากที่ดินเต็มผืนทั้งแนวราบและแนวดิ่ง

จากจังหวะช่วงรอยต่อนี้เอง ทำให้นายฐิระวัตร กุลละวณิชย์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง

ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชนว่า กรมมีนโยบายจะเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบร่างกฎกระทรวงควบคุมการก่อสร้างทั้งหมดในโซนสุวรรณภูมิ เพื่อสร้างมิติใหม่ของความเป็นระเบียบและได้มาตรฐานของการพัฒนาเมืองในอนาคต

ทั้งนี้การประกาศของกรมโยธาฯเกิดขึ้นหลังจากแผนจัดตั้งสุวรรณภูมิมหานครที่ริเริ่มสมัยพรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาลถูกยกเลิก เป็นไปได้ว่า ถ้านโยบายของกรมโยธาฯเป็นไปอย่างราบรื่น ภาคเอกชนต้องมีการปรับตัวในการคำนวณต้นทุนที่ดิน และขั้นตอนต่างๆ จากการขออนุญาตสร้างสิ่งปลูกสร้างอาคารนับจากนี้ แทนการปรับตัวจากพื้นที่ที่จะถูกควบคุม ตามแผนจัดตั้งสุวรรณภูมิมหานครกว่า 500 ตารางกิโลเมตรก่อนหน้านี้

รายงานข่าวแจ้งว่า ร่างกฎกระทรวงของกรมโยธาฯจะแบ่งการใช้ประโยชน์ที่ดินรอบสนามบินสุวรรณภูมิเป็น 10 โซน ให้เจ้าของที่ดินใช้ประโยชน์ที่ดินตามความเหมาะสมและศักยภาพของพื้นที่ โดยจะควบคุมการก่อสร้างอาคารสูง อาคารขนาดใหญ่อย่างรัดกุมเข้มงวด ไม่ว่าจะเป็นมลพิษทางเสียง ปัญหาน้ำท่วม โดยจะกันพื้นที่บางส่วนเป็นแนวรับน้ำหรือฟลัดเวย์

ในส่วนของการควบคุมความสูงอาคารนั้น ปัจจุบันกฎกระทรวงมหาดไทยปี 2547 ยังมีผลบังคับใช้ โดยแบ่งการควบคุมอาคารเป็น 3 ระยะ คือระยะห่างจากสนามบิน 300 เมตร คุมความสูง 12 เมตร ระยะห่างจากบริเวณแรก 700 เมตร ควบคุมความสูง 18 เมตร และระยะห่างจากบริเวณที่ 2 อีก 1,500 เมตร คุมความสูง 23 เมตร

โดยกลุ่มบริษัทพัฒนาที่ดิน อาทิ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค, ศุภาลัย, นารายณ์ พร็อพเพอร์ตี้, กฤษดามหานคร, เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้, ปรีชากรุ๊ป, ชาญอิสสระ, พฤกษา เรียล เอสเตท ไม่ได้หวั่นไหวกับการยกเลิกแผนจัดตั้งสุวรรณภูมิมหานครแต่อย่างไร

หลายฝ่ายกลับมองว่า สิ่งที่รัฐดำเนินการอยู่เป็นเรื่องของอนาคต ผลกระทบยังไม่เห็นเด่นชัด แต่สิ่งที่น่ากังวลมากที่สุดในขณะนี้กลับเป็นปัญหาเศรษฐกิจเกิดภาวะชะลอตัว เพราะกำลังซื้อถดถอย ทำให้ 3 สมาคมอสังหาฯเร่งผลักดันให้กระทรวงการคลังออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านธุรกิจอสังหาฯ

นายสงกรานต์ อิสสระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทไม่ได้คาดหวังกับนโยบายการพัฒนาสุวรรณภูมิมหานคร เพราะการพัฒนาโครงการโดยยึดติดกับนโยบายการพัฒนาของภาครัฐที่ยังไม่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่เสี่ยงเกินไป ดังนั้นการยกเลิกร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวจึงไม่มีผลกระทบ

"ผมเห็นว่าทำเลสุวรรณภูมิสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง อย่างตัวผมก็มีอยู่ 1,000 ไร่ แต่ผมขอดูแนวโน้มเศรษฐกิจและความชัดเจนทางการเมืองก่อน"

29 มกราคม 2550

บังคับ"บ้านเช่า-อพาร์ตเมนต์"5ห้องต้องทำสัญญา

สคบ.ออกประกาศคุมเข้มธุรกิจให้เช่าที่อยู่อาศัย เผยบ้าน คอนโดฯ อพาร์ตเมนต์ตั้งแต่ 5 หน่วยขึ้นไป หากให้เช่าโดยเรียกเงินประกันจากผู้เช่าเข้าข่ายต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข พร้อมห้ามระบุข้อความจะไม่คืนเงินประกันดัดหลังพวกชอบเอาเปรียบคนเช่า

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า จากที่นายขวัญชัย สันตสว่าง ประธานคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาภายใต้ สคบ. ได้ออกประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2549 เรื่องให้ธุรกิจการให้เช่าที่อยู่อาศัยที่เรียกเงินประกันเป็นธุรกิจที่ควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงิน พ.ศ.2549 และกำหนดให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2550 มีสาระสำคัญดังนี้

ให�คำจำกัดความ "ธุรกิจการให้เช่าที่อยู่อาศัย" ว่า หมายถึง การประกอบธุรกิจที่ผู้ประกอบธุรกิจทำการตกลงกับผู้เช่าในการให้เช่าที่อยู่อาศัยโดยมีสถานที่ที่จัดแบ่งให้เช่าตั้งแต่ 5 หน่วยขึ้นไป เช่น บ้าน อาคาร อาคารชุด อพาร์ตเมนต์ หรือสถานที่พักอาศัยที่เรียกชื่ออย่างอื่น รวมถึงหอพักตามกฎหมายว่าด้วยหอพัก แต่ไม่รวมถึงสถานที่พักที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม

ส่วน "ผู้ประกอบธุรกิจ" หมายถึง ผู้ประกอบธุรกิจการให้เช่าที่อยู่อาศัย โดยเรียกเงินค่าเช่าหรือค่าตอบแทนอย่างอื่นเพื่อการเช่าจากผู้เช่าขณะที่ "ผู้เช่า" หมายถึง ผู้บริโภคซึ่งเช่าที่อยู่อาศัยเพื่อการพักอาศัยเป็นหลัก และการเช่านั้นต้องมิใช่เป็นการเช่าเพื่อให้เช่าช่วง และไม่รวมถึงผู้บริโภคซึ่งเป็นนิติบุคคล ส่วน "เงินประกัน" หมายถึง เงินที่ผู้เช่ามอบให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจเป็นค่าประกันการเช่าที่อยู่อาศัย หรือค่าประกันความเสียหาย หรือเงินอื่นใดที่ผู้ประกอบธุรกิจเรียกเก็บจากผู้เช่าในลักษณะทำนองเดียวกัน

ทั้งนี้ กำหนดให้ธุรกิจการให้เช่าที่อยู่อาศัยที่เรียกเงินประกัน เป็นธุรกิจที่ควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงิน ผู้ประกอบธุรกิจต้องจัดให้มีหลักฐานการรับเงิน และมอบให้แก่ผู้เช่าในทันทีที่รับเงินประกันจากผู้เช่า และต้องใช้ข้อความที่มีสาระสำคัญและเงื่อนไข ดังต่อไปนี้

1.ชื่อและที่อยู่ของผู้ประกอบธุรกิจ และผู้มีอำนาจออกหลักฐานการรับเงิน 2.ชื่อและที่อยู่ของผู้เช่า 3.ชื่อและสถานที่ตั้งของที่อยู่อาศัย

4.กำหนดเวลาเช่า ระบุวันเริ่มต้นและวันสิ้นสุดการเช่า (ถ้ามี) 5.วัน เดือน ปี ที่รับเงินประกัน

6.จำนวนเงินประกัน และข้อความว่าผู้เช่ามีสิทธิได้รับคืนเงินประกันทันทีเมื่อสิ้นสุดเวลาเช่าหรือเมื่อสัญญาเช่าเลิกกัน เว้นแต่กรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจประสงค์จะตรวจสอบความเสียหาย หากผู้เช่ามิได้ทำความเสียหายให้มีสิทธิได้รับคืนเงินประกันภายใน 7 วัน โดยให้ผู้ประกอบธุรกิจรับภาระค่าใช้จ่ายในการนำส่งคืนเงินประกันนั้น และ 7.ลายมือชื่อของผู้ประกอบธุรกิจ หรือผู้มีอำนาจออกหลักฐานการรับเงิน

โดยที่หลักฐานการรับเงินจะต้องไม่มีข้อความที่มีความหมายในทำนองว่า ผู้ประกอบธุรกิจจะไม่คืนเงินประกันให้แก่ผู้เช่าทั้งหมดไม่ว่ากรณีใดๆ สำหรับผู้ประกอบการที่กระทำการฝ่าฝืนจะได้รับโทษตามบทกำหนดโทษ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522
จากหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 3866 (3066)

23 ธันวาคม 2549

จัดสรรดิ้นเฮือกสุดท้ายขายบ้าน +เดือนธันวาคมชิงกำลังซื้อวินาทัสุดท้าย 'เพอร์เฟค' หั่นราคาขาย 10-15%/คอนโดฯ ลด แลก แจก แถม เพียบ


นับถอยหลังปี 2549 ดีเวลลอปเปอร์บ้าน ดิ้นสร้างยอดขายวินาทีสุดท้าย เทกระจาดบ้านพร้อมอยู่ อัดแคมเปญ ลด แลก แจก แถม เพียบเดือนธันวาคม ค่าย "ศุภาลัย" นำบ้าน-คอนโดฯ สร้างเสร็จมูลค่าไม่ต่ำกว่า 4 พันล้านจัดแคมเปญฟรีค่าธรรมเนียมโอนถึงสิ้นปี ส่วนค่าย "เพอร์เฟค-" หั่นราคาบ้านพร้อมอยู่ทุกโครงการ 10-15% ตามแลนด์แอนด์ เฮ้าส์ที่นำร่องไปก่อนหน้านี้ ส่วนค่าย "เสนา" จับมือธอส.อยู่ฟรี 2 ปี ปลอดต้น-ดอก ด้าน "เอเชี่ยน"–"ที.ซี.ซี.แลนด์"-เจ้าพระยามหานคร" ดาหน้าขอร่วมวง


นับถอยหลังปี 2549 ที่เหลือเพียง 2 สัปดาห์เศษ แต่การแข่งขันของตลาดของผู้ผู้ประกอบการบ้านจัดสรรกลับยังทยอยอออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแคมเปญ ลด แลก แจก แถม ยังคงมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และรายเล็กต่างก็โหมจัดแคมเปญช่วงชิงกำลังซื้อของผู้บริโภคแม้กระทั่งวินาทีสุดท้ายของปีเพื่อให้สร้างอดขายได้มากที่สุด


โดยนายอธิป พีชานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า บริษัทฯได้จัดแคมเปญกระตุ้นยอดขายต่อเนื่องจากงานใหญ่ที่จัดไปแล้วในช่วงปลายเดือนพ.ย. ที่ผ่านมา โดยได้นำบ้านที่สร้างเสร็จแล้ว ทุกโครงการของศุภาลัย มูลค่าไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท มาจัดแคมเปญ โดยลูกค้าที่จองซื้อตั้งแต่วันนี้ตลอดจนสิ้นเดือนธันวาคม และยื่นกู้ภายใน 1 ธันวาคมที่ผ่านมาจะได้รับสิทธิฟรีค่าธรรมเนียมการโอนและค่าใช้จ่ายส่วนกลางเป็นเวลา 1 ปี พร้อมกับส่วนลดสูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท แถมแอร์และตกแต่งสวนฟรี และลูกค้ารายใดที่จองซื้อแต่ไม่ผ่านการพิจารณาสินเชื่อจากแบงก์ บริษัทจะคืนเงินจองและเงินทำสัญญาให้


ด้าน นายวิศิษฐ์ เลาหพูนรังษี ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการ บริษัท อารียา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ว่า บริษัทเพิ่งจัดกิจกรรมส่งท้ายปีด้วยอีเวนท์ "a space Welcome Party " ณ โครงการเอสเปซ สุขุมวิท 77 ไปเมื่อระหว่างวันที่ 15-17 ธ.ค.2549 ที่ผ่านมาเพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคได้รีบตัดสินใจซื้อโครงการเอ-สเปซก่อนจะหมดปี โดยกระตุ้นยอดขายด้วยการจัดแคมเปญแถมเครื่องใช้ไฟฟ้าซัมซุง จำนวน 5 ชิ้น ประกอบด้วยทีวี ขนาด 29 นิ้ว, ตู้เย็น, ไม่โครเวฟ, เครื่องทำน้ำอุ่น และเครื่องกรองน้ำ เมื่อทำสัญญาภายในวันที่จัดงาน นอกจากนั้นแล้วลูกค้าที่วางเงินดาวน์ 13% รับตั๋วเครื่องบินไปกลับกรุงเทพ โตเกียว พร้อมโรงแรมที่พัก 2 คืน จำนวน 1 ที่นั่ง หรือหากลูกค้าเก่าแนะนำเพื่อนหรือคนรู้จักมาจองโครงการเอ-สเปซ จะได้รับบัตรของขวัญมูลค่า 10,000 บาท


ทั้งนี้ผลจากการจัดกิจกรรมดังกล่าวทำให้มียอดจองเข้ามาเพิ่มอีก อีก 200 กว่าล้านบาท จาก 100 กว่ายูนิตในช่วงตลอด 3 วันที่ผ่านมา โดยมากจะเป็นยอดจองที่เกิดจากโครงการอารียาเอ-สเปซ –อโศก เกือบ 100 ยูนิต หลังจากนี้จะจัดเป็นแคมเปญเล็กๆ ไปจนถึงสิ้นปี โดย คาดว่ายอดขาย ณ สิ้นปีนี้น่าจะได้ประมาณ 200-300 ล้านบาท จากนั้นจะไปจัดอีเว้นท์ใหญ่เปิดตัวโครงการอารียา-อโศกอีกครั้งในเดือนก.พ. 2550


ขณะที่ยักษ์ใหญ่แห่งวงการน้ำเมาค่าย "ที.ซี.ซี. แคปปิตอลแลนด์" ของเสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี ที่ได้นำโครงการคอนโดมิเนียมดิเอ็มโพรีโอ ย่านถนนสาทร และโครงการดิเอ็มไพรส์ เพลส มาจัดแคมเปญแถม LG Portable DVD Player ด้วยเช่นกัน


ส่วนบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) ที่มีสต็อคบ้านพร้อมอยู่เฉพาะทำเลโซนรัตนาธิเบศธ์ ก็ไปเข้าไปถึง 6 โครงการ มีมูลค่าการขายเหลือรวมกัน 3,236 ล้านบาท ได้จัดให้มีกิจกรรมในระหว่างวันที่ 15-17 ธ.ค. 2549 ที่ผ่านมาโดยนำบ้านพร้อมอยู่ในสต็อกมาจัดแคมเปญลดราคาโครงการละ 10 หลัง จากจำนวน 12 โครงการใน 7 ทำเล


แหล่งข่าวจากบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าบริษัทได้นำโครงการมาลดราคาลง 10-15% จากราคาปกติ โดยตลอด 3 วัน ว่าสามารถทำยอดขายได้ 700 ล้านบาท จากจำนวน 120 ยูนิต เฉลี่ยทำเลละ 200 ล้านบาท ได้แก่ ทำเลรังสิต, รัตนาธิเบศธ์ และสุวรรณภูมิ ส่วนทำเลเอกมัย-รามอินทรา มียอดขาย 100 ล้านบาท เนื่องจากเป็นบ้านไซซ์ใหญ่ โดยความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลมาจากการที่บริษัทได้มีการโฆษณาออกไปก่อนล่วงหน้าประมาณ 2 อาทิตย์ อย่างไรก็ตาม ยังมีลูกค้าที่ลงชื่อจองซื้อเอาไว้ ซึ่งบริษัทจะให้สิทธิต่อเนื่องไปอีก 40 หลัง หรือประมาณ 200 ล้านบาท จนถึงสิ้นปี


โดยก่อนหน้านี้ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) พี่เบิ้มแห่งวงการจัดสรร ได้เขย่าวงการตลาดบ้านด้วยการจัดอีเว้นท์นำร่องลดราคาบ้านลงประมาณ 10% ในทุกโครงการในช่วงระหว่างวันที่ 7-8 ตุลาคมที่ผ่านมาซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่แลนด์ฯไม่เคยมีมาก่อนนับตั้งแต่ฟื้นวิกฤตเศรษฐกิจมาและสามารถสร้างยอดขายให้แลน์ดฯ เพิ่มได้อีก 2,800-2,900 ล้านบาท แต่ถึงกระนั้นยอดรายได้ของแลนด์ฯในช่วง 9 เดือนของปี 2549 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหายไปประมาณ 4,000 ล้านบาท และกำไรหายไปเกือบครึ่งหนึ่งโดยมีรายได้ 17,789,177,000 ล้านบาท และมีกำไร 3,981,048,000 บาท ล่าสุดแลนด์ฯได้ออกโฆษณาตัวใหม่สื่อให้ถึงผู้บริโภคว่าราคาบ้านของแลนด์ฯไม่ได้แพงอย่างที่คิด คนทำงานอายุต้นๆ ไม่ถึง 30 ปีก็สามารถเป็นเจ้าของบ้านแลนด์ฯได้เพื่อปรับภาพลักษณ์ของบ้านแลนด์ฯให้สอดรับกับแผนตลาดในปีหน้าที่จะลงมาในตลาดบ้านราคา 3-5 ล้านบาทมากขึ้น


ส่วนด้านผู้ประกอบการรายเล็ก อย่างบริษัท นราวดี พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด นำบ้านหลุดดาวน์ในโครงการบ้านนราวดี พระราม 5 วงแหวน มาขายใหม่อัดแคมเปญเริ่มต้นราคาที่ 3.99 ล้านบาท จากราคาขายเดิมเริ่มต้นที่ 4-6 ล้านบาท สำหรับขนาด 58 ตารางวา และบ้านพร้อมอยู่อีกจำนวน 10 หลังในโครงการ โดยวางเงินจองเพียง 50,000 บาทเท่านั้น และฟรีตกแต่งวอลเปเปอร์ทั้งหลัง และสนามหญ้ารอบบ้าน


นอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่กำลังจะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อย่าง บริษัท เสนาดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ได้นำบ้านพร้อมอยู่จำนวน 200 หลัง มาจัดแคมเปญอยู่ฟรี…ปลอดต้น...ปลอดดอกเบี้ย...ฟรี 2 ปี ร่วมกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ โดยบริษัท เสนาฯจะเป็นผู้รับภาระเรื่องอัตราดอกเบี้ยแทนผู้ซื้อในช่วงระยะเวลา 2 ปี โดยคาดว่าแคมเปญดังกล่าวจะช่วยสามารถขายบ้านพร้อมอยู่ที่มีอยู่ในสต็อกให้หมดเร็วขึ้นจากเดิมคาดการณ์ไว้ที่ไตรมาสแรกของปี 2550 เป็นภายในสิ้นปีนี้


สำหรับ บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด จัดกิจกรรมเปิดตัวโครงการทาวน์เฮาส์ ยูเรก้า บางแค ราคา 3.9 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 23-14 ธ.ค.นี้ ด้วยแคมเปญของแถมกว่า 500,000 บาท โดยแจกทองคำแท่งมูลค่าหนัก 10 บาท สำหรับลูกค้าที่จองและทำสัญญา ตกแต่งพื้นด้วยหินแกรนิตชั้นล่างกว่า 80,000 บาท แถมเครื่องปรับอากาศทุกห้องนอน ส่วนลดเงินสดกว่า 2 แสนบาท


ขณะที่ค่ายบ้านหรูอย่าง บริษัท ไพร์มเนเจอร์วิลล่า จำกัด ของ "สุนัทที เนื่องจำนงค์" ได้เข้าร่วมงาน "จิมทอมป์สัน เฟสติวัล" ระหว่างวันที่ 15-17 ธ.ค.2549 ที่ผ่านมาที่ไบเทคบางนา เพื่อหวังว่าจะสร้างการรับรู้ให้กลุ่มลูกค้าระดับไฮเอ็นด์และส่งผลให้มียอดขายโครงการมากขึ้น โดยไพร์มเนเจอร์ฯได้นำโครงการที่หัวหินซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมขนาด 14-17 ตารางวา จำนวน 9 ยูนิตมาหั่นราคาขายจาก 6.3 ล้านบาทเหลือเพียง 5.9 ล้านบาท พร้อมตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ให้ทั้งหลัง ส่วนโครงการไพร์มเนเจอร์ วิลล่า อ่อนนุช จำนวน 9 ยูนิตสุดท้ายขายเริ่มต้นที่ 12 ล้านบาท


โดยนายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้เตรียมจัดอีเว้นท์ใหญ่ในต้นปีหน้าเนื่องจากจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่คือเดอะแอสเดรส@ชิดลม ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ชิดลม พร้อมกันนี้ได้นำโครงการบ้านพร้อมอยู่ที่อยู่ระหว่างการขายทุกโครงการของเอเชี่ยนมาจัดกิจกรรมร่วมกันโดยอยู่ระหว่างการคิดโปรโมรชั่น และคิดว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี เนื่องจากในช่วงต้นปีไม่มีใครจัดอีเว้นท์

20 ตุลาคม 2549

ทุนรร.ยึดสุวรรณภูมิ +ดอนเมืองโซ กลุ่ม 'อัศวิน-เซ็นทรัล-จึงรุ่งเรืองกิจ' เคลื่อนทัพปักธงย่านลาดกระบัง


จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2158 19 ต.ค. - 21 ต.ค. 2549

กลุ่มทุนเคลื่อนทัพรอบสุวรรณภูมิ ไล่ซื้อที่ดินผุดโรงแรม รับสนามบินชี้บางนา-กิ่งแก้ว-ลาดกระบัง ทำเลทองไล่ตั้งแต่ อัศวิน อิงคะกุล –เซ็นทรัล –อมารี -เกียรตินาคิน–สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ-ดุสิตธานี และอีกหลายกลุ่มที่ยังลังเลรอดูแอร์พอร์ตลิงค์เกิด เผยได้อานิสงค์ไปถึงบางแสน –พัทยา ที่ตระกูลคุณปลื้มทุ่ม 2 พันล้านขึ้น"บางแสนเฮอริเทจ" นายกเมืองพัทยาชี้ 2 ปีห้องเพิ่มไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นห้องมูลค่านับหมื่นล้าน ส่วนโรงแรมรอบดอนเมืองหง่อนเบนเข็มรับตลาดคอนเวนชั่น รอลุ้นโลว์คอร์สคัมแบล็ค
"ฐานเศรษฐกิจ" เช็คชีพจรธุรกิจ หลังจากสนามบินสุวรรณภูมิเปิดให้บริการ พบว่าพื้นที่ย่านกิ่งแก้ว ถนนบางนาตราด และลาดกระบัง กลุ่มนักลงทุนในแวดวงท่องเที่ยวให้ความสนใจ เข้าไปกว้านซื้อที่ดินเพื่อเตรียมก่อสร้างโรงแรมกันเป็นจำนวนมากทั้งที่เป็นกลุ่มนายทุนใหม่ที่เพิ่งเข้าไปกว้านซื้อที่ดินและนักลงทุนเก่าที่มีที่ดินอยู่แล้ว และเตรียมสร้างโรงแรมรองรับนักท่องเที่ยว หลังพบว่าขณะนี้มีเพียงโรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิเพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่อยู่ใกล้สนามบินมากที่สุดและขายห้องพักในราคาร่วมหมื่นบาทต่อห้องต่อคืน ที่สำคัญอัตราเข้าพักเกือบเต็มมาตลอดตั้งแต่เปิดบริการ
+++อัศวิน-สุริยะ- กลุ่มเซ็นทรัล-ปักธงผุดห้าดาว
สำหรับกลุ่มทุนใหม่ที่เตรียมปักหลักสร้างโรงแรมได้แก่ นายอัศวิน อิงคะกุล เจ้าของโรงแรม มิราเคิล แกรนด์ ที่ได้เข้าซื้อที่ดินแถว ถนนกิ่งแก้วค่อนไปทางลาดกระบัง ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของสนามบิน เพื่อสร้างโรงแรมขนาด 200 ห้อง หลังจากที่ได้สัมปทานสร้างเดย์รูม 6.0 ห้องในสนามบินสุวรรณภูมิและเปิดบริการศูนย์อาหารเครื่องดื่มในสมานบินแล้ว
กลุ่มต่อมาเป็นอดีตนักการเมืองใหญ่ กลุ่มนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ได้เข้าไปซื้อที่ดินแถวบางนาตราด และถนนกิ่งแก้ว สมัยที่เป็นรัฐมนตรี และได้เข้าไปซื้อโครงการสนามกอล์ฟ ซัมมิท วินด์มิลล์ พร้อมทั้งได้ปรับปรุงใหม่สนามกอล์ฟและโรงแรมรับนักท่องเที่ยว
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มเซ็นทรัลของตระกูลจิราธิวัฒน์ที่เตรียมสร้างโรงแรม เนื่องจากมีที่ดินที่ยังว่างอยู่ซึ่งอยู่ติดกับห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล บางนา ส่วนกลุ่มอมารี ก็แสดงความสนใจที่จะเข้าไปลงทุนสร้างโรงแรมในย่านนั้นเช่นกัน โดยอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อที่ดิน เบื้องต้นคาดว่าจะซื้อที่ดินแถวลาดกระบัง เป็นหลัก นอกเหนือจากนี้ยังมีหลายกลุ่มที่แสดงความสนใจที่จะลงทุนสร้างโรงแรมในย่านนั้นอาทิ ตระกูล เกรียตินาคิน ซึ่งมีที่ดินอยู่แถวห้างโลตัส บางนา กลุ่มภัตราคา
โกลเด้นท์ดราก้อน บางนา ที่มีแผนสร้างโรงแรมด้วย รวมถึง โรงแรมรอยัลปริ๊นเซส บางนาในเครือดุสิตธานีที่มีแผนขยายห้องพักเพิ่มขึ้นอีก 150 ห้อง
นายอัศวิน อิงคะกุล เจ้าของโรงแรมมิราเคล แกรนด์ กล่าวยอมรับว่า กำลังดูรายละเอียดของการเข้าไปลงทุนโรงแรมในพื้นที่ใกล้เคียงสนามบินสุวรรณภูมิจริง ซึ่งการจะลงทุนในลักษณะใดต้องศึกษาความเหมาะสม เพราะพื้นที่ดังกล่าวถือว่าอยู่ในเขตควบคุมการสูงของอาคาร ต้องดูว่าลงทุนแล้วจะคุ้มหรือไม่ หรือจะลงทุนอย่างไรที่จะคุ้มค่ามากที่สุด
++++ ที่ดินพุ่งรับโครงการ100%
จากการสำรวจพบว่าโรงแรมที่ตั้งอยู่โดยรอบพื้นที่ดังกล่าว ได้มีการปรับปรุงและลงทุนกันอย่างคึกคักเช่นกัน อาทิ โรงแรมแกรนด์อินคำ ได้ทุ่มงบกว่า 70 ล้านบาท ในปรับปรุงห้องพักใหม่ โรงแรมโนโวเทล บางนา ทุ่มงบประมาณกว่า 10 ล้านบาทในการปรับปรุงห้องพัก สระว่ายน้ำ และห้องประชุมใหม่ โรงแรมอเล็กซานเดอร์ ทุ่มงบประมาณกว่า 60 ล้านบาท ปรับปรุงเช่นกัน
ทั้งนี้ นายสุพจน์ อรุนานนท์ชัย รองประธานโรงแรมแกรนด์ อินคำ ถนนกิ่งแก้ว เผยว่า มีการขยายตัวของนักลงทุนมาก ในส่วนของโรงแรมได้ทุ่มงบ 70 ล้านบาทปรับปรุง และตั้งแต่เปิดใช้สนามบินพบว่าห้องพักโรงแรมและอพาร์ทเมนต์ในย่านนี้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ และไม่เพียงพอต่อความต้องการ กลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มลูกเรือและนักท่องเที่ยวกลุ่มทรานซิส(ผู้โดยสารต่อเครื่อง)
ผลจากการที่นักลงทุนเข้าไปกว้านซื้อที่ดินแถบนั้นกันมากได้ทำให้ราคาที่ดินจากไร่ละ 2 ล้านบาทปรับเป็น 4 ล้านบาทและสูงถึง 6 ล้านบาทถ้าหากตั้งอยู่ในทำเลที่ดี แต่อย่างไรก็ตามส่วนหนึ่งนักลงทุนยังลังเลโดยขอรอดูความชัดเจนจากโครงการแอร์พอร์ตลิ้งค์ ก่อน เพราะถ้าสร้างเสร็จ พื้นที่แถบนั้นอาจไม่บูมดังที่คิดก็ได้เพราะผู้โดยสารและคนทำงานในย่านนั้นสามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้อย่างสะดวก
+++:ชีคอน ซีตี้ผุดรร. อพาร์เมนท์บนทำเล100ไร่
นายตะติยะ ซอโสตถิกุล กรรมการผู้จัดการบริษัทซีคอน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าซีคอน สแควร์ เผยว่า บริษัทมีแผนที่จะขยายการลงทุนโดยใช้เม็ดเงินกว่า 1 หมื่นล้านบาทในโครงการใหม่ภายใต้ชื่อว่า "ซีคอน ซิตี้"บนเนื้อที่ 100 ไร่ บริเวณถนนศรีนครินทร์ ติดกับศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ที่เปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบัน โดยซีคอน ซิตี้ จะประกอบด้วยคอนโดมีเนียม เซอร์วิสอพาร์เม้นท์ โรงแรม สำนักงาน รวมพื้นที่กว่า 7 แสนตร.ม. ในขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งศึกษาโครงสร้างและรูปแบบ รวมถึงสาธารณูปโภคโดยรวมเพื่อปรับให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า โดยจะเริ่มก่อสร้าง หลังเปิดสนามบินสุวรรณภูมิ โดยจะก่อสร้างและทยอยเปิดบริการเป็นเฟสๆ คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งโครงการภายใน 7 ปีนับจากนี้ เพราะมองว่าหลังเปิดสุวรรณ จะทำให้มีประชากรและธุรกิจย้ายถิ่นฐานมาตั้งในย่านบางนา ศรีนครินทร์เพิ่มขึ้น
+++บางแสน –พัทยา ส้มหล่น
นอกจากพื้นที่บริเวณโดยรอบสนามบินจะบูมแล้วยังส่งผลไปถึง เมืองท่องเที่ยวอย่างบางแสน –พัทยาที่มีการลงทุนสร้างศูนย์การค้า เมืองใหม่และโรงแรมใหม่กันอย่างคึกคักรวมมูลค่าโครงการนับหมื่นล้านบาท โดยตระกุลคุณปลื้ม ของกำนันเป๊าะ สมชาย คุณปลื้ม ลงทุน 2 พันล้าน สร้างโครงการ บางแสนเฮอริเทล เป็นแหล่งช้อปปิ้ง โรงแรม 400 ห้อง ห้องประชุม และหมู่บ้านขายต่างชาติ ครบวงจร ส่วนพัทยานั้น ประเมินว่าภายใน2 ปีนี้จะมีห้องพักเพิ่มขึ้นกว่า 1 หมื่นห้องและศูนย์การค้า รวมมูลค่าการลงทุนนับหมื่นล้านบาท
เช่นเดียวกับโรงแรมในพัทยาซึ่งขณะนี้ได้มีเชนต่างชาติแห่เข้ามาลงทุนในพัทยาจำนวนมาก อาทิ เชนฮอลิเดย์อิน เชนเลอเมอริเดียน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีโรงแรมเปิดใหม่ระดับ 3-5 ดาวเปิดใหม่ไม่ต่ำกว่า 10 แห่ง อาทิ โรงแรมเชอราตัน บีช รีสอร์ท พัทยา โรงแรมการ์เด้นท์ คริฟ บีช รีสอร์ท พัทยา บริหารโดยโซฟีเทล โรงแรมเมอร์เคียว เป็นต้น ขณะที่โรงแรมเดิมก็ได้มีการปรับปรุงใหม่พร้อมทั้งขยายห้องพักเพิ่ม อาทิ โรงแรมเซ็นทรัลวงศ์อมาตย์ ที่ทุบทิ้ง แล้วสร้างใหม่ โรงแรมลองบีช พัทยาได้มีการขยายห้องพักเพิ่มขึ้นกว่า 40-50 ห้อง และเตรียมผุดโรงแรมใหม่อีก 1 แห่ง บริเวณซอยนาเกลือ โรงแรมอมารีออคิดก็ได้มีการทุ่มงบประมาณหลายร้อยล้านบาทในการขยายโรงแรม เป็นต้น
+++คาด 2ปีพัทยาห้องพักพุ่งหมื่นห้อง
ด้านนายนิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร นายกเมืองพัทยา เผยว่า การเปิดสนามบินสุวรรณภูมิ
เชื่อว่าการท่องเที่ยวของพัทยาจะมีขยายตัวอย่างแน่นอน ดูได้จากขณะนี้มีโรงแรมเชนเข้ามาสนใจลงทุนจำนวนมาก โดยล่าสุดเครือเซ็นทรัลกำลังก่อสร้างห้างสรรพสินค้าและโรงแรมบริเวณอ่าวพัทยา โครงการโอเชี่ยนวัน คอนโดมิเนียมสูงที่สุดในโลกจำนวน 91 ชั้น ใช้งบประมาณหลายพันล้านบาท ซึ่งคาดว่าภายใน 2 ปีพัทยาจะมีห้องพักเพิ่มขึ้น 1 หมื่นห้อง มีมูลค่าลงทุนเกือบหมื่นล้านบาท (มูลค่าการลงทุนเบื้องต้นประมาณ 1 ล้านบาทต่อห้อง) ไม่รวมอพาทเม้นท์ คอนโดมิเนียม
"ในส่วนของเมืองพัทยายังได้ทุ่มงบประมาณกว่า 2.4 พันล้านบาท แบ่งเป็นงบของเมืองพัทยาประมาณ 700-800 ล้านบาทและงบอุดหนุนประมาณ 1.6 พันล้านบาท โดยจะเป็นโครงการในการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานทั้งหมด อาทิ โครงการตัดถนนโลคัลโรด์ การขยายผิวจราจร บริเวณถนนสุขุมวิท ระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร พร้อมทั้งมีแผนที่จะขุดอุโมงค์รอดใต้ดินผ่านแยกบริเวณพัทยาเหนือ กลาง ใต้เพื่อแก้ปัญหารถติดที่จะเกิดขึ้นในอนาคต"
อย่างไรก็ดี จากแนวโน้มการขยายตัวของพัทยาในขณะนี้ตนมีแนวคิดที่จะผลักดันให้พัทยาเป็นเขตปกครองพิเศษ "พัทยามหานคร" มีการปกครองในลักษณะเดียวกับกรุงเทพมหานคร โดยจะต้องมีดึงอบต.อบจ.โดยรอบเข้ามาอยู่ในเขตพัทยา เพื่อเป็นการกระจายความเจริญออกนอกเมือง จากปัจจุบันที่มีพื้นที่ประมาณ 54 ต.ร.กม. หากรวมกับพื้นที่ในน้ำจะมีประมาณ 200 ต.ร.กม.แต่จ่ายภาษีสูงถึง 700-800 ล้านบาทต่อปี
+++นักลงทุนไทย-เทศผุดเชนโรงแรมหรู
ด้านนายชัชวาล ศุภชยานนท์ นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก กล่าวว่า หลังเปิดสุวรรณภูมิ เชนโรงแรมต่างชาติให้ความสนใจเข้ามาลงทุนจำนวนมาก โดยล่าสุดขณะนี้ได้มีเชนฮอลิเดย์อิน และเลอเมอริเดียนที่กำลังจะลงทุนใหม่ ส่วนนักลงทุนคนไทยก็เตรียมตัวจะเปิดโรงแรมใหม่ระดับ 3-4 ดาวอีกจำนวนมาก ไม่นับรวมคอนโดมีเนียมและเซอร์วิสอพารทเม้นท์ที่แห่เปิดตัวเหมือนดอกเห็ด นอกจากนี้พื้นที่การลงทุนยังได้มีการขยายตัวไปยังหาดจอมเทียนและบางสะเหร่มากขึ้นอีกด้วย
"ทั้งนี้หลังเปิดสนามบินแล้วจะใช้เวลาในการเดินทางมาพัทยาแค่เพียง 1 ชั่วโมงกว่าๆเท่านั้นทำให้เชื่อว่านักท่องเที่ยวบางส่วนจะตัดสินใจเดินทางมาพัทยาโดยไม่เข้ากรุงเทพ นอกจากนี้ในส่วนของนักธุรกิจและกลุ่มประชุม สัมมนา โดยในปีหน้านี้คาดว่าจะอัตราเข้าพักน่าจะเพิ่มขึ้นจากปีนี้ไม่ต่ำกว่า 10%"
ส่วนนางพงา วรรธนะกุล กรรมการผู้จัดการ โรงแรมรอยัลคริฟ บีช รีสอร์ทและศูนย์ประชุมพีช เผยว่า มีแผนที่จะทุ่มงบ 400-500 ล้านบาทขยายศูนย์ประชุมเนื่องจากมั่นใจว่าหลังจากเปิดสนามบินสุวรรณภูมิจะส่งผลให้ตลาดไมซ์ในพัทยามีอัตราเติบโตสูงขึ้นโดยจะสามารถรองรับการจัดประชุมประมาณ 8 พันคน จากเดิม 5.4 พันคน คาดเริ่มก่อสร้างภายในสิ้นปีนี้เปิดปีบริการปี2551
+++รร.ดังย่านดอนเมืองพลิกหนีโซ
ทางด้านความเคลื่อนไหวของโรงแรมย่านสนามบินดอนเมืองนั้น ได้มีการปรับฐานการตลาดใหม่หันมามุ่งตลาดประชุม สัมมนากันเป็นจำนวนมากหลังอัตราการเข้าพักลดลงอย่างเห็นได้ชัด เช่น อย่างโรงแรมอามารี แอร์พอร์ตหันมารับตลาดทัวร์ และลดค่าห้องพัก เหลือ 900 บาท
จากเดิมขาย ประมาณ 4 พันบาท โรงแรมเอเชีย แอร์พอร์ต ปรับมารับตลาดสัมมนาเพราะตั้งอยู่ใกล้นิคมอุตสาหกรรม โรงแรม รามา การ์เด้นส์ ปรับกลยุทธ์ด้วยการปรับปรุงห้องพักทั้งหมดเป็นสไตล์โมเดิร์นมากขึ้น เพิ่มห้องประชุมสัมมนาเป็น 18 ห้อง รองรับกรุ๊ปประชุมได้ตั้งแต่ 10-1,000 คน โดยลูกค้าเป้าหมายหลักของโรงแรม 60% เป็นกรุ๊ปประชุมสัมมนาและเปิดตลาดใหม่อย่างอินเดีย
ขณะเดียวกันโรงแรมหลายแห่งในย่านนี้ก็ยังรอความหวังว่า สายการบินต้นทุนต่ำอาจจะย้ายกลับมาใช้บริการที่สนามบินดอนเมืองซึ่งจะทำให้ธุรกิจโรงแรมในย่านนี้กลับมาคึกคักอีก ครั้งแม้ไม่เหมือนเดิมแต่ถ้าหากสนามบินดอนเมืองบางส่วนถูกใช้เป็นสถานที่แสดงนิทรรศการโรงแรมเหล่านี้ย่อมได้รับอานิสงส์ไปด้วย

คลังบทความของบล็อก